2567-01-25

เหนือสุดแดนสยาม Skywalk ดอยเวา ยาวสุดในไทย ชมวิวไกลถึงพม่า

ว่ากันว่า ชีวิตนี้ควรตั้งเป้าหมายให้สูงเข้าไว้ เอาให้ไกลสุดขอบจักรวาล แล้วก็พุ่งทะยานออกไป แม้ไม่มีทางจะไปถึงได้ อย่างน้อยก็ได้ถีบหนีแรงโน้มถ่วงโลก โอกาสที่จะไปเดินเล่นอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว เหมือน Anakin Skywalker ในเรื่อง Star Wars คงพอมีให้เห็นบ้าง


ทริปล่าสุดตั้งจุดหมายไว้สูงเทียมฟ้า เหนือสุดในสยาม ละติจูด 20 องศา 37 ลิปดา 30 พิลิปดา ของเมืองแม่สาย เชียงราย ที่นี่มีความท้าทายใหม่เหนือเส้นละติจูดเหนือสุด นั่นคือ Skywalk ที่เหนือยิ่งกว่า Skywalk ใดๆ เพราะมีทางเดินกระจกใสยาวที่สุดในประเทศไทย “Skywalk วัดพระธาตุดอยเวา” 


การหนีแรงโน้มถ่วงไปแม่สาย ไม่ยากเย็นเท่าไร ถนนเชียงใหม่-เชียงราย สร้างเสร็จแล้ว สวยงามปลอดภัย จะต้องระวังบ้างก็แค่ลดความเร็วช่วงลงดอยก่อนเข้าเมือง ถ้าไหลลงดอยเพลิน อาจมีใบสั่งฯ ส่งตามมาที่บ้าน 


ถึงพรมแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก เลี้ยวซ้ายขึ้นวัดพระธาตุดอยเวา ทางค่อนข้างลาดชัน คันไหนมีขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็จัดเลย ถ้าไม่มั่นใจว่าลากเกียร์ 1 ตลอดทางได้ ก็ไปจอดที่ลานจอดรถวัด แล้วนั่งรถแมงป่องของวัดขึ้นไป


การเดินทางไปโลกพระจันทร์ จะยากก็ตอนดีดตัวออกจากพื้นโลก พลังงานเกินครึ่งต้องใช้ไปกับการพุ่งหนีแรงโน้มถ่วง แต่พอพ้นชั้นบรรยากาศออกไปแล้วจะล่องลอยยังไงก็ได้ เฉกเช่นการตั้งเป้าจะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น ช่วงแรกต้องใช้พลังใจในการเปลี่ยนนิสัยกันหนักหน่อย พอเริ่มชินชีวิตก็จะง่ายขึ้น


ทว่าทฤษฎีนี้ ใช้กับ Skywalk วัดพระธาตุดอยเวาไม่ไหว ขับรถหนีแรงโน้มถ่วงมาจากเชียงใหม่ 250 กม. ก็ไม่ไกล ราคาตั๋ว 50 บาท ก็ไม่แพง แต่พอถึงประตู Skywalk ใส่ถุงสวมรองเท้าเรียบร้อย พอจะก้าวขาออกไป .. มันดันก้าวขาไม่ออก


Skywalk ดอยเวา มีทางเดินกระจกยาวที่สุดในประเทศไทย คือ 150 กิโลเมตร ไม่ใช่สิ 150 เมตร แต่ความรู้สึกเมื่อก้าวขาออกไป แต่ละก้าวช่างยาวไกลเหลือเกิน เดินวิ่งกันสักสิบกิโลฯ ขายังไม่เคยสั่นนะ แต่นี้เดินไม่กี่ก้าว ขาสั่นผับๆ เหงื่อแตกพลั่กๆ


ความสูงจากพื้นถนนข้างล่าง ราวตึก 3 ชั้น แต่ถนนดันเลียบหน้าผาบนยอดดอยสูงชัน ครั้นกลั้นใจเดินไม่ก้มไปมอง เงยหน้าขึ้นมองเบื้องหน้า กลับคล้ายว่าล่องลอยบนท้องฟ้าเวิ้งว้างห่างไกล เหม่อมองออกไปสุดสายตา เหนือกว่าคำบรรยาย กระซิบบอกได้แค่ว่า .. มันสวยมาก 


ทิวทัศน์เบื้องหน้า คือเมืองท่าขี้เหล็ก เมืองใหญ่ในรัฐฉาน โน้มรับแสงตะวันอ่อนแรง แยงแสงบีบฉาบทับทิวเขาที่ลดหลั่นโอบล้อมเป็นฉากหลัง ทางเดินสร้างเป็นทรงโค้ง เก็บวิวเฉียงเหนือทุกองศา ตั้งแต่ตะวันออกยันตะวันตก ครบทั้งฝั่งไทยและพม่า 

Skywalk ดอยเวา เพิ่งเปิดให้เข้าชมเมื่อปลายปี 66 ที่ผ่านมา แต่วัดพระธาตุดอยเวา ก็ไม่ธรรมดา สร้างมาตั้งแต่ปี จ.ศ.296 หรือ พ.ศ.1477 โดยพระองค์เวา กษัตริย์องค์ที่ 10 แห่งราชวงศ์สิงหนวัติ เป็นผู้สร้าง นับถึงปีนี้ก็ 1,090 ปี เก่าแก่เป็นรองแค่พระธาตุโดยตุง ที่สร้างในปี พ.ศ. 1454 สมัยพญาอชุตราช กษัตริย์องค์ที่ 3 


พระองค์เวา หรือ ขุนควักเวา ได้สร้างพระเจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุไว้บนดอยแห่งนี้ พร้อมตั้งชื่อว่าดอยเวา เพราะตอนเป็นเด็กเคยมาควักเวา หรือขุดเอาแมงป่องช้าง จากบนดอยนี้ ไปชนกันเล่น เป็นกีฬาพื้นบ้านที่โปรดปรานของเด็กยุคนั้น ในวัดจึงเต็มไปด้วยรูปปั้นแมงป่องยักษ์ อันเป็นหมุดหมายเชิงสัญลักษณ์ของวัดดอยเวานั่นเอง


เดินบน Skywalk พื้นกระจกไปได้สักพัก Skywalker ทั้งหลายก็เริ่มชินกับแรงโน้มถ่วงใหม่ แม้ปลายเท้าจะยังจิกกันตลอดเวลาเดิน แต่ก็เพลิดเพลินเดินเล่น ถ่ายรูปเล่นไปมาได้ จากพาดาวัน เริ่มกลายเป็นเจไดกันแล้ว มาสเตอร์โยดา ฝากมาบอกว่าเวลาลากเท้ากับกระจกยาวๆ อย่าเกร็งมาก เดี๋ยวจะเป็นตะคริว


ขอพลังจงสถิตอยู่กับเจ้า Skywalk วัดพระธาตุดอยเวา เปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม พอพลบค่ำตะวันลับเส้นขอบฟ้า Skywalk จะเล่นใหญ่ไฟแสงสีกระพริบระยับวับวาว ประหนึ่ง Anakin Skywalker กำลังเดินอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว .. รอบหน้าดาบเลเซอร์ต้องตามมาแล้ว


ไม่มีความคิดเห็น: