“น้ำ”
คือปัจจัยสำคัญของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลก ทรัพยากรน้ำเป็นทรัพยากรอันมีค่า
สามารถเปลี่ยนตนเองได้หลายสถานะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำ ไอน้ำ น้ำแข็ง หิมะ เหมยขาบหรือแม้แต่ลูกเห็บ
น้ำเป็นตัวทำละลายที่ดี และมีพลังสูงส่ง ทั้งด้านปริมาณและด้านความถี่ของการไหล หนึ่งในพลังหลากหลายของน้ำ
นอกจากจะสามารถทำลายทุกสรรพสิ่งที่ขวางกั้นได้แล้ว น้ำยังได้หยิบยื่นเติมเต็มความสวยงามให้แก่โลกมากมาย
ช่วงเดือนก่อนได้ยินข่าว ปิดอุทยานแห่งชาติออบขาน เนื่องจากน้ำป่าไหลหลาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องนำอุปกรณ์ชนิดจัดเต็ม เข้าให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ติดอยู่อีกฝั่งน้ำขาน ทำให้หวนคิดถึงเมื่อสักปีสองปีก่อน ที่ได้มีโอกาสปั่นจักรยานลุยสายฝนไปซาบซึ้งกับโตรกธารอันวิจิตรพิสดารของอุทยานแห่งชาติออบขาน วันหยุดสัปดาห์ก่อน ฝนไม่ตก แดดไม่ออก จึงได้ฤกษ์ดีที่จะได้พาจักรยานคู่ชีพ ไปเยี่ยมชมออบขานวันนี้เสียที
จากถนนเลียบคันคลองชลประทานไปทางอำเภอหางดงประมาณ
15 กิโลเมตร จะเจอทางแยกป้ายบอกทางให้เลี้ยวขวาข้ามคลองชลประทานไปตามถนน
รพช.น้ำแพร่-ออบขาน ป้ายก็มีบอกอีกเป็นระยะเช่นกัน โดยมากจะเป็นอีก 6 กิโลเมตรตลอด
ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่โดยรวมๆ ดูจากมิเตอร์ จากแยกตลาดต้นพยอมถึงอุทยานแห่งชาติออบขาน
ใช้ระยะทางประมาณ 28 กิโลเมตร ก็ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ออบขาน
ไหนๆ ก็มาถึงแล้ว อ่านดูป้าย เค้าว่าคำว่า
"ออบ" เป็นคำเมืองเหนือ หมายถึงชะง่อนผา หรือโกรกธาร
ที่เกิดจากการไหลกัดเซาะของกระแสน้ำ โดยส่วนตัวแล้วผมก็คนเมือง
แต่ไม่ค่อยได้ยินคำนี้ ส่วนมากจะได้ยินคำว่า “แอ็บ” เช่น “แอ็บข้าว” “แอ็บอ่องออ”
แปลว่ากล่องข้าวน้อยๆ หรือห่อหมกสมองหมู ซึ่งก็เป็นอันน้อยๆ เล็กๆ แบนๆ โดยรากสำเนียงการออกเสียง
แล้วพอจะเดาๆ ได้ว่าน่าจะเป็นอะไรที่เล็กๆ แคบๆ ส่วนคำว่า "ขาน"
มาจากคำว่า ธารแม่ขาน ซึ่งมีต้นน้ำจากเหนืออำเภอสะเมิงไหลเลาะอ้อมหลังดอยสุเทพ-ดอยปุย
ก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำปิงนั่นเอง
ว่าแล้วก็ลงไปหาเรื่องเล่นน้ำเย็นๆ เอารถไปล้างโคลนข้างล่าง
ที่น้ำมันนิ่งๆ หน่อย เพราะยังเกรงๆ มันอยู่ เห็นน้ำมันสีขุ่นๆ
เห็นมีนักท่องเที่ยวพาลูกหลานมาปิกนิกนอกสถานที่เล่นน้ำบริเวณหาดทรายอยู่ประปราย
เสียดายที่มาคันเดียว ยังไม่กล้าพอ ทั้งที่พื้นที่บริเวณอุทยานแห่งชาติออบขาน
ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ที่สวยงามน่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ผาอกม้า ช่องเหวออบไฮ
เห็นคนที่ไปมาเค้าว่าเป็นแคนยอนน้อยๆ เลยนะ เอาไว้โอกาสหน้าคงมีโอกาสได้ไปสัมผัส
แต่วันนี้รีบกลับบ้านก่อน ฟ้าฝนเริ่มไม่เป็นใจ หากฝนตกบนดอยจะกลับลำบาก
แถวนี้ยิ่งนึกจะตกก็ตก ตกไม่กลัว กลัวจะน้ำป่าไหลหลากมากกว่า เอาไว้คราวหน้าค่อยว่ากันอีกที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น