ว่ากันว่าการวิเคราะห์ ด้านเทคนิค เกิดขึ้นโดยแมงเม่ารุ่นพี่ ที่ใช้หลักเกณฑ์การศึกษาอดีต มาทำนายเหตุการณ์ในอนาคต ที่ “อาจจะ” เกิดขึ้นได้ ตามหลักสถิติ หลายค่ายหลายตำรา ซับซ้อนซ่อนเงื่อน เหนือคำบรรยาย ซึ่งแม้ว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิค จะไม่มีข้อสรุปตายตัว ว่าทฤษฎีของใครสามารถทำนายแนวโน้มของราคาหุ้นได้อย่างแท้จริง แต่แมงเม่าจำนวนมาก ก็ใช้วิธีนี้ในการตีความ ตามแบบแผนบ้าง ตามอารมณ์บ้าง ตามประสบการณ์บ้าง ... อะไรบ้างเช่นเดียวกับการพยากรณ์อากาศ พยากรณ์ดวงชะตา การพยากรณ์ราคาหุ้น ก็สามารถมีความคลาดเคลื่อนได้เสมอ โดยเฉพาะนักลงทุนที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ต่ำ ใช้ความรู้สึกเข้ามาสอดแทรกเข้าไปยังคำทำนาย หรือบ้างก็ยึดติดกับหลักเทคนิคมากจนเกินไป ไม่ได้โฉบบินไปเยี่ยมชมปัจจัยต่างๆ ที่จะเข้ามากระทบอีกมากมาย ดังนั้นการวิเคราะห์ทางเทคนิค อาจไม่ใช่คำตอบของหุ้นนั้นๆ เสมอไป ดังคำกล่าวของเสี่ยเอ (เพื่อนแมงเม่าปีกบางใน Facebook) ที่ว่า “การลงพุงมีความเสี่ยง นักลงพุงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงพุง ก่อนตัดสินใจลงพุง”
เมื่อเริ่มพูดถึงเรื่องเทคนิค ถามว่านักลงทุนทั้งหลายหลับตานึกถึงภาพอะไร ตอบได้ง่ายๆ ว่าต้องเป็นภาพกราฟสวยๆ มีเส้นสายยึกยือ สีสันสวยงาม ยิ่งรกรุงรังเท่าใดยิ่งเหมือนมีมนต์ขลัง หรือจะลากเพิ่มเติมขนาดไหนอย่างไร เครื่องมือเครื่องไม้ต่างๆ ก็มีให้เลือก หลากหลายวิธี ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเทรดตัวไหน ถึงจะดูเป็นไม่เป็น ก็ต้องขอดูกราฟก่อนให้อุ่นใจ คล้ายกับเวลารถสตาร์ทไม่ติด ต้องลงไปเปิดฝากระโปรงรถ ทั้งที่เปิดมายังไม่รู้เลยว่าที่เติมน้ำยาปัดน้ำฝนอยู่ที่ไหน เติมน้ำยาปัดน้ำฝนแล้วรถจะสตาร์ทติดไหม ฯลฯ ...เอาเป็นว่านักลงทุนทุกรุ่นชอบดูกราฟกัน เดี๋ยวบทความหน้า จะมาพูดคุยกันถึงเรื่องกราฟยอดนิยม เรียกกันว่ากราฟแท่งเทียน (Candle Stick) สัญญาณเทคนิคจากกราฟแท่งเทียน สามารถบอกเล่าราคาหุ้นในอนาคตได้จริงหรือไม่ ค่อยมาว่ากัน เพราะนั่งดูกราฟอยู่ทุกวันมาก็หลายปี ก็ไม่มีความรู้ด้านเทคนิคอะไรมากมาย หลายครั้งหลายหนที่ต้องบ่นว่า “รู้งี้” ตามสูตร รู้อะไรไม่สู้ รู้งี้ ... เอาเป็นว่าลอกตำรามาเล่าสู่กันฟัง เผื่อว่าใครจะมีอะไรมาแลกเปลี่ยนแนะนำ แล้วพากันก้าวพ้นอิสระทางการเงินไปด้วยกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น