2556-04-06

Indicator ที่เรียกกันว่า สโตฯ Stochastics (Stoch)

สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แต่เปิดดูหุ้นแบบผ่านๆ ไม่อยากสอดแทรกอารมณ์เข้าไปมากนัก ... แม้จะพยายามรักษาภาวะวุฒิทางอารมณ์อย่างเต็มที่ แต่เจ้ามือก็มือหนักเหลือเกิน ตบเอาๆ ตบหนักเข้า ก็ปิดเครื่องหนีไปเที่ยวมันเสียเลย ... หุ้นก็มีอยู่เต็มพอร์ต ตัวที่เก็บมาหลายปี ยังพอมีกำไรเหลืออยู่บ้าง แอบเสียดายกำไรนิดๆ ที่ไม่ได้ Short Against Port แต่ก็มีบางตัว ที่เพิ่งยื่นมือไปรับมีด พุ่งทะลุมือ ลงเสียบเท้าเข้าปักดิน แค่คิดจะยกเท้าเดินหนีก็เจ็บปวด .. หวนคิดคำนึงถึงคำพูดเก่าๆ เมื่อหลายปีก่อนช่วงเล่นหุ้นใหม่ๆ ที่ว่า “เด้งเพื่อลง ทรงเพื่อทรุด” สงสัยงานนี้ประวัติศาสตร์จะย้อนรอยเสียกระมัง


ข่าวที่ออกมายามหุ้นร่วง ก็แน่นอนว่านักวิเคราะห์พยายามสรรหาข่าวร้ายต่างๆ ถาโถมเข้ามา เป็นเรื่องธรรมดายามหุ้นตก ... ก็เลยมานั่งคิดถึงกลุ่มที่วิเคราะห์ทางเทคนิคว่าเค้ารู้ตัวทันกันไหม โดยแอบเข้าไปอ่านเฟซบุ๊คของบรรดาเซียนทั้งหลาย บ้างก็ไหวตัวทัน บ้างก็รู้ตัวแต่ถอนตัวไม่ขึ้น หรือไม่ได้เล่นตามแผนการที่วางไว้ ... พอมีเพื่อนบ้างหลายคน คนที่รู้ตัวก่อน ล้างพอร์ตไปตั้งแต่วันแรกที่ร่วง ขณะนี้ก็คงรอแบบสบายใจ เริ่มมองหาจังหวะซื้อ ... แต่โดยส่วนตัวมั่นใจในตัวหุ้นที่มีอยู่ มากไปนิด .. เวลานี้ก็เลยต้องแปลงร่างเป็นนักลงทุนเน้นคุณค่าไปโดยปริยาย

วันนี้ว่างๆ นั่งมองกราฟไป นึกถึงเส้น Indicator เส้นหนึ่งที่มักจะเปิดดูก่อนจะเข้าจะออกหุ้น ...ภาษาบ้านๆ เรียกสโตฯ (Stoch) ชื่อเต็มคือ Stochastics ... ซึ่งเป็นอีกเส้นหนึ่งที่นักวิเคราะห์ทางเทคนิค ใช้นำไปประกอบกับ Indicator ต่างๆ เพื่อใช้บอกแนวโน้มสัญญาณการซื้อขาย โดยเส้นสโตฯ นี้จะบอกสัญญาณ Overbought และ Oversold  ในระยะสั้น 1 – 3 วัน  มีช่วงการพิจารณาระหว่าง 20% และ 80% เจ้าเส้นสโตฯ นี้มีสองเส้น วิ่งไล่กันไปมาอย่างน่ารักน่าชัง เส้นหนึ่งคือเส้น Stochastic (%K) เส้นมันจะหนาหน่อย และเส้นค่าเฉลี่ยของ Stochastic (%D) เส้นก็จะบางกว่า

การวิเคราะห์เส้นสโตฯ คือ สัญญาณเตรียมซื้อ จะเกิดขึ้นเมื่อเส้น %K ลงสู่ระดับ Oversold 20% และจะเกิดสัญญาณซื้อเมื่อเส้น %K ตัดเส้น %D ขึ้นไปจากระดับ Oversold ... ส่วนสัญญาณขายก็ตรงกันข้ามกัน คือจะเกิดขึ้นเมื่อเส้น %K ขึ้นสู่ระดับ Overbough 80% และจะเกิดสัญญาณขายเมื่อเส้น %K ตัดเส้น %D ลงมาจากระดับ Overbought ... จะว่าไปแล้วก็ดูเหมือนจะง่ายๆ แต่บางครั้งมันก็ลงได้เรื่อยๆ จะถึง 0% แล้วก็ยังถูลู่ถูกังบี้กันไป บางทีขึ้นไปถึงเกือบ 100% แล้วก็ไม่ยอมหยุด ราคาหุ้นขึ้นไปเรื่อยๆ ก็บี้กันอยู่แถวๆ นั้นก็มี

สรุปเกี่ยวกับเส้นสโตฯ ก็คือ สัญญาณซื้อ หรือขาย สามารถเกิดขึ้นได้เรื่อยๆ เมื่อเส้น %K ตัดเส้น %D ... สัญญาณซื้อ หรือขายล่วงหน้า เกิดขึ้นเมื่อมีการโค้งตัวของ %K นักวิเคราะห์มักให้ทยอยซื้อเมื่อมีการโค้งขึ้นของเส้น %K โดยอธิบายว่าเป็นลักษณะของการตั้งครรภ์ ... ทั้งนี้ควรนำไปวิเคราะห์กับปัจจัยหลายๆ อย่าง ร่วมด้วย ก่อนที่จะบอกว่า ณ เวลานี้เป็น Bullish Divergence หรือ Bearish Divergence  ไม่อยากบอกว่าสิ่งนี้คือบทเรียนล่าสุด เพราะดูแต่เส้นสโตฯ แล้วแหย่เข้าไปรับมีด แม้จะแค่แหย่ไปไม่มาก ไม่ถึงกับเจ็บตัวหนัก แต่ก็เจ็บใจไม่น้อย

ตลาดหุ้นบ้านเรา แตะ 1600 แล้วร่วงลงอย่างไม่เป็นท่า ซึ่งก่อนหน้านี้วิ่งทะลุ 1000 มาอย่างไม่เห็นข่าวดีอะไร ... ตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่มีขนาดเล็ก ง่ายต่อการถูกครอบงำของนักลงทุนระดับโลก เวลารับรู้ปัจจัยการลงทุนก็ช่างอ่อนไหวเสียเหลือเกิน ซื้อขายกันวันละแสนกว่าล้าน ตั้งแต่เล่นมาก็เพิ่งเห็นวันนั้น แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ... สัญญาณเทคนิค จะให้ผลชัดเจนได้ประมาณไหน ในภาวะที่ตัวแปรเยอะแยะมากมายเช่นนี้ ... โปรดติดตามตอนต่อไป แต่อย่าใจจดใจจ่อกับมันมากเกินไป .. เพราะอาจกินไม่ได้นอนไม่หลับเลยทีเดียว

ไม่มีความคิดเห็น: