ถ้าจักรยานอยู่กลางหว่างขา แล้วดันไร้เป้าหมาย ก็มักจะไหลไปตั้งหลักก่อนที่ ไร่แม่เหียะ มช. ตามความรู้สึกคือเป็นศูนย์กลางของเส้นทางปั่นจักรยานสายใต้เชียงใหม่ ฝั่งเชิงดอยสุเทพ ที่มีซอกซอยให้ปั่นทะลุออกไปได้หลายทาง ทั้งอำเภอหางดง สะเมิง แม่วาง สันป่าตอง ขึ้นอยู่กับแรงปั่น แรงฝัน อารมณ์ และเวลาว่าง
ตราบจนได้จังหวะเวลา บุญพาวาสนาส่ง เมื่อรุ่นพี่นักปั่นฯ ได้โพสต์รีวิว ใน FB ไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ณ โลหะปราสาท บนยอดดอยบ้านปง คลิกดูภาพไป ก็มั่นใจว่าน่าจะเป็นปราสาทเดียวกันที่เคยเห็นบ่อยๆ หลังจากกดหัวใจส่งไปทาง FB แล้ว ก็รีบไปส่องจุดเช็คอิน เปิดแผนที่หาโลหะปราสาท พระธาตุศรีเมืองปง วัดอรัญญวาส
แล้วบ้านปงก็แค่ปากซอย วัดอรัญญวาส หรือวัดบ้านปง อยู่ไม่ไกลจากปากทางดอยกอม ปั่นไปก็คอยเงยหน้ามองหาโลหะปราสาท สีขาวเด่นสง่า แจ่มจ้าตัดกับทิวป่า เพิ่งสังเกตว่ามีป้ายบอกทางไปโลหะปราสาทหลายจุด ทางเข้าออกก็มีหลายทาง ซอยแถวนี้เชื่อมทะลุกัน แวะอุดหนุนร้านค้าชุมชนในซอยบ้างก็ดี
โลหะปราสาท ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงชันข้างหลังวัด ยิ่งใกล้ ยิ่งแหงนมองขึ้นไปคอตั้งบ่า เมื่อมาถึงหน้าวัด รถทุกคันให้เลี้ยวซ้ายไปจอดที่ลานจอดข้างวัด เพราะทางขึ้นไป เป็นทางแคบ คดเคี้ยวและสูงชัน ขึ้นลงสวนทางกันลำบาก สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงไม่อนุญาตให้นำรถทุกชนิดขึ้นไปเองเด็ดขาด
โดยทางวัดได้จัดให้มีจุดบริการ รถรับ-ส่ง ขึ้น-ลงโลหะปราสาท ศรัทธาญาติโยม นักท่องเที่ยว สามารถใช้บริการและร่วมทำบุญ ชำระหนี้สงฆ์ ช่วยบำรุงค่ารถได้ เพียงท่านละ 40 บาท จุดพักคอยสะดวกสบาย มีร้านค้าชุมชน บริการห้องน้ำสะอาด จอดรถได้ปลอดภัยส่วนท่านที่ประสงค์จะขึ้นไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ บนโลหะปราสาท โดยทางธรรมชาติ หรือเดินขึ้นบันได จอดรถเสร็จแล้ว ให้เดินเข้าไปในวัดก่อน แวะไหว้พระทำบุญก่อนก็ได้ อย่าลืมถอดเกิบตามป้ายที่หน้าโบสถ์ แล้วค่อยเดินทะลุซุ้มประตูออกวัดไปฝั่งด้านขวา เลียบคลองแม่ท่าช้างไป ก็จะเจอซุ้มทางขึ้นบันใด
บันใดปูนไต่เลาะเลียบสันดอยขึ้นไป โค้งเว้าตามมิติธรรมชาติ ตั้งใจจะเดินนับขั้นบันไดไปเรื่อยๆ แต่พอไปได้สักพัก ดอยเริ่มสูง วิวเริ่มสวย เหงื่อเริ่มชุ่มหลัง หายใจเริ่มไม่ทัน แวะนั่งกินลมชมวิวสักพักก่อน พอจะลุกเดินอีกที ลืมไปละว่าขั้นที่เท่าไร ความเหนื่อยมีผลต่อสมาธิ แต่ลืมนับขั้นบันได ยังไม่เจ็บใจเท่าลืมหยิบน้ำดื่มที่จักรยานขึ้นมาด้วยในที่สุดก็เดินขึ้นบันไดปูน ทะลุป่าทึบมาจนสุดทาง ถึงชั้นแรกของโลหะปราสาท ถอดรองเท้าใส่ในตู้ให้เรียบร้อย แล้วก้าวเดินต่อไปบนบันไดกระเบื้องอันงดงาม ใครนับขั้นบันไดขึ้นมา เลิกนับได้เลย เพราะต่อจากนี้ไปมีบันไดทางเชื่อมขึ้นและลงล้อมรอบปราสาทให้เลือกเดิน หลายต่อหลายทาง ขั้นบันไดไม่น่าจะเท่ากัน
ส่วนยอดเจดีย์ทรงปราสาทแบบล้านนาประยุกต์ ที่เงยหน้าขึ้นไปเห็นอยู่ลิบๆ อยู่ชั้นสาม ใช่แล้วเราอยู่แค่ชั้นแรก เหมือน Stairway to heaven ยังต้องขึ้นบันไดไปอีกไกล โดยตัวปราสาทที่ลดหลั่นกันสามชั้น หมายถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ส่วนผังรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส หมายถึง อริยสัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรคชั้นแรก ภายในแนวกำแพงแก้ว ล้อมรอบด้วยลานประทักษิณ มีประติมากรรมช้างค้ำ 8 เชือก หมายถึงชัยชนะของพระพุทธเจ้า 8 ประการ บันไดสิงห์นำขึ้นไปยังชั้นสอง ประดับด้วยช้างเอราวัณ 8 เชือก แสดงถึงสรวงสวรรค์ ที่สถิตของทวยเทพ มีท้าวจตุโลกบาลประจำแต่ละทิศ และชั้นสูงสุด คือยอดเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ แวดล้อมด้วยซุ้มปราสาท 28 ซุ้ม แสดงถึงพุทธบัลลังก์ สถานที่ประดิษฐานพระพุทธเจ้า 28 พระองค์รถที่บริการพานักท่องเที่ยวขึ้นมา จะจอดส่งประตูทางเข้า และถอดรองเท้าฝากไว้ที่ศาลาด้านหน้าในศาลามีตู้แช่น้ำดื่มเย็นๆ ไว้ต้อนรับ โดยให้บริจาคตามจิตศรัทธา จริงๆ ถ้ามีอีกสักตู้ไปตั้งไว้ที่ฝากรองเท้าข้างหลัง ตรงบันไดคนเดินขึ้นมา น่าจะมีศรัทธาบริจาคกันเยอะ เพราะเดินขึ้นบันไดมา เหนื่อยกว่าคนนั่งรถขึ้นมาหลายเท่านัก
โลหะปราสาทสวยสะดุดตา เมื่อมองลงมาวิวสวยสะดุดใจ ยอดปราสาทมีทั้งหมด 120 ยอด ยอดฉัตร 60 ยอด ช่อดอกไม้ทิพย์ 60 ช่อ สร้างขึ้นเพื่อแสดงความจงรักภักดีในวาระครบรอบ 60 ปี แห่งการครองราชย์ของรัชกาลที่ 9 นับเป็นสถาปัตยกรรมทรงปราสาทมียอดเป็นโลหะ แห่งที่ 4 ของโลก ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปี 2567 นี่เอง
นมัสการพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมเดินชมโลหะปราสาทโดยรอบสมดังตั้งใจแล้ว ก็เดินกลับทางบันไดที่ขึ้นมา ทำบุญช่วยให้เย็นใจ ได้ดื่มน้ำช่วยให้เย็นกาย สมาธิกลับมาแล้ว ตั้งใจแน่วแน่ นับขั้นบันไดตั้งแต่ก้าวแรกที่ก้าวลงบันไดปูน ครบ 100 ขั้นก็หยุด พักตั้งสติทีหนึ่ง กันลืมสรุปลงมาถึงพื้นที่เหยียบดิน มีบันไดทั้งหมด 848 ขั้น อีกวันรีบหาซื้อสลากจากแอพเป๋าตัง ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
วันออกสลาก เปิดดูอีกที ข้อความเค้าว่า “วันนี้อาจไม่ใช่วันของเรา เจอกันใหม่ในโอกาสหน้า”









ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น