2563-04-17

โควิดทำพิษ อดไปเกาหลี เอารถถีบมาขี่ แอ่วแวดคูเมือง (คูเมือง 1)


(คูเมือง 2) (คูเมือง 3) (คูเมือง 4)

“เกาหลีใต้” ยังไม่เคยไป แต่ก็จะไม่มีวันลืม ด้วยจ่ายเงินค่าตั๋วทุกอย่างล่วงหน้าข้ามปี ทำการบ้านอย่างดีชนิดที่พร้อมลากกระเป๋าทุกเวลา แต่ด้วยพิษไวรัสโคโรนา ระบาดหนักตั้งแต่ต้นปี มีให้ลุ้นกันทุกวัน ว่ายังจะได้ไปไหม กำหนดบิน 9 – 13 มี.ค. 2563 ใกล้เข้ามาทุกที โควิด 19 ก็หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จน Super Spreader แห่งเมืองแทกู พาเชื้อกระจายไปทั่วเกาหลีใต้ ในที่สุด 21 กพ. ก็ได้รับ E-mail จาก Air Asia ให้เลื่อนเวลาบิน และก็ยกเลิกเที่ยวบินเกาหลีใต้ทั้งหมดในเวลาต่อมา โดยให้ผู้โดยสารยื่นขอใช้สิทธิขอคืนค่าโดยสารได้เต็มจำนวน ถึงวันนี้ผ่านไป 2 เดือนแล้ว ก็ยังไม่รู้จะได้คืนเมื่อไร

ค่าตั๋วเข้าสวนสนุก Everland พร้อมรถรับส่ง โชคดีจองผ่าน Klook ขอคืนได้เต็มจำนวน ส่วนค่าที่พัก Ibish Ambassador Seoul Myeongdong Hotel ก็น่ารักมาก ทำเรื่องคืนเงินเข้าบัตรเครดิตให้ทั้งหมด  ต่างจากที่พักอีกแห่งหนึ่ง Rodehouse Myeongdong Guesthouse ตกลงกันไว้ว่าจะจ่ายเงินวันเข้าพัก 9 มี.ค. โดยเอาเลขบัตรเครดิตค้ำประกันไว้ หลังจากรีบ E-mail แจ้งไปตั้งแต่ 23 ก.พ. ด้วยความเป็นห่วง เผื่อว่าจะได้เอาห้องให้ลูกค้าอื่นพักแทน ค่ามัดจำหักเท่าไรก็ยินดีจ่ายให้ กลับกลายเป็นว่าอ่านเมล์เสร็จ เค้ารีบหักบัตรเครดิตล่วงหน้าเต็มจำนวนทันที แถมไม่มีแม้แต่มรรยาทผู้ดี พอที่จะอธิบาย หรือตอบ E-mail มาสักคำ


เสียใจไม่ได้ไปเกาหลียังไม่เท่าไร โควิด 19 ระบาดหนักขึ้นเรื่อยๆ อีกไม่นานทั่วโลกก็เริ่ม Lockdown อย่าว่าแต่จะบินเลย เดินทางข้ามจังหวัดยังต้องถูกกักตัว 14 วัน เวลาตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงตี 4 ห้ามออกนอกบ้าน ร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง ก็ยังต้องปิดเปิดตามเวลา และสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย ก็เห็นจะเป็นการงดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ทุกกรณี เป็นครั้งแรกในรอบ 130 ปี นับตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีการประกาศวันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ 1 เมษายน ในปี 2432 โดยในปีนี้ ไม่มีการเล่นน้ำ ไม่มีงานดำหัว ห้ามมั่วสุม เหล้ายาก็ห้ามขาย เพราะทุกคนต้องช่วยกันอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ

ประเพณีสงกรานต์นั้นอยู่คู่บ้านเมืองไทยมาหลายพันปี แม้ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2484 จอมพล ป. พิบูลสงครามได้เปลี่ยนวันปีใหม่เป็นวันที่  1 มกราคม ตามสากลแล้วก็ตาม แต่คนไทย ก็ยังคงสืบทอดประเพณีปีใหม่ไทยกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับคนเชียงใหม่ และถ้าพูดถึงเล่นน้ำสงกรานต์แล้ว ภาพภาพแรกที่นึกได้ ก็เห็นจะเป็นการเล่นสาดน้ำรอบคูเมือง แลนด์มาร์คสำคัญที่คนทั่วโลกรู้จักดี ถ้าใครมาแอ่วสงกรานต์เชียงใหม่ แล้วไม่ได้เล่นน้ำรอบคูเมืองถือว่ามาไม่ถึง หรือถ้าเดินแอ่วสงกรานต์ รอบคูเมืองหนึ่งรอบ แล้วไม่เปียกน้ำ หรือไม่มีใครสาดน้ำ อันนี้ถึงขั้นต้องกลับไปพิจารณาตัวเองทีเดียว

ในปี พ.ศ. 1839 ขณะที่อิตาลี นำยุโรปเข้าสู่ยุคเรอเนสซองส์ ตามตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ก็ได้ระบุตามพระฤกษ์ของการสร้างเมืองเชียงใหม่ ไว้ว่า ในวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 1839 หรือครบ 724 ปีวันนี้พอดิบพอดี ในแดนล้านนาแห่งนี้ ได้มีการลงจอบแรกในการขุดคูเมือง หรือการลงเสาเอกในการสร้างราชมณเฑียร โดยพญามังราย ได้สถาปนาเมืองเชียงใหม่ขึ้นเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรล้านนา แม้ช่วงหลังมานี้ จะรู้กันเพียงว่าวันที่ 12 เมษายน ของทุกปี จะเป็นวันแรกที่เริ่มเล่นน้ำสงกรานต์รอบคูเมืองกันอย่างเป็นทางการ  ทว่าปีใหม่เมืองยุคโควิดปีนี้ เป็นปีแรกที่ไม่มีการเล่นสาดน้ำกันแต่อย่างใด

12 เมษายน พ.ศ. 2563 คูเมืองปลอดน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ว่าแล้วก็ขอต๊ะต่อนยอน ปั่นรถถีบคู่ใจออกไปส่องดูคูเมืองยุคโควิดสักหน่อย ระหว่างทางปั่นไป ก็นึกถึงครั้งสมัยก่อน เพื่อนคนกรุงเอ่ยปากขอให้พาไปเที่ยวชมคูเมือง เพื่อนคนเชียงใหม่ได้ยินก็พากันหัวเราะเป็นเรื่องตลก คนเชียงใหม่เห็นคูเมืองมาตั้งแต่เกิด ผ่านไปมาทุกวัน วันละหลายรอบ จนไม่ได้คิดว่าคูเมืองคือที่เที่ยว แต่เราผูกพันกันประหนึ่งเป็นคลองหน้าบ้าน สวนหย่อมข้างรั้ว รีสอร์ตส่วนตัว รวมทั้งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนหัวนอน ตามเรามา เดี๋ยวจะเล่าไทม์ไลน์หลากหลายเรื่องราว รอบคูเมืองเชียงใหม่ให้ฟัง

ไม่มีความคิดเห็น: