2564-08-09

วีวีไอพี ขอรีวิวสักนิด ฉีดวัคซีนโควิด-19 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่ (เข็มแรก)


แหกขี้ตามาลงทะเบียนตั้งแต่เช้าวันแรกที่ โรงพยาบาลนครพิงค์ เชียงใหม่ เปิดให้จองนัดฉีดวัคซีนโควิด-19 เลือกวันเวลานัดหมายได้บ่ายโมงวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ณ อาคารพละศึกษา 2 สนามกีฬาเชียงใหม่ 700 ปี รอไปนับเดือนจนจวนเจียนจะได้เวลานัด ก็มีเหตุติดขัดให้ถูกยกเลิกไป ด้วยเหตุชะตาฟ้าลิขิต ไม่คิดจะอธิบาย แต่ทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป นโยบายใหม่ ชาวเชียงใหม่ต้องจองผ่านเว็บฯ “ก๋ำแปงเวียง” เท่านั้น ลงทะเบียนไปแล้วก็รอไป เพราะเข้าไปเช็คเมื่อไหร่ ก็ได้แค่คำตอบว่ายังไม่ถึงคิว 

ผ่านไปนับเดือน คนที่รู้จักก็ทยอยฉีดวัคซีน โพสต์อวดกันให้น้ำลายสอ บ้างพอมีวิทยายุทธ ก็รุดไปจองวัคซีนทางเลือกสารพัดช่องทาง และแล้ววันนี้ที่รอคอยก็มาถึง ตกตะลึงกับ SMS แจ้งเข้ามาทางมือถือ รีบเข้าเว็บ Check Status ทันที ก๋ำแปงเวียงนัดให้ไปฉีดวัคซีนเข็มแรก 5 สิงหาคม 2564 เวลา 14.00 น. ณ อาคารแสดงนิทรรศการ 1 อุทยานหลวงราชพฤกษ์ หรือที่เรียกกันติดปากว่า “พืชสวนโลก” ตามชื่อ “งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549” ที่จัดขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว

SMS บอกล่วงหน้า 2 วันกำลังดี พอมีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจ ยอมรับว่าตื่นเต้นไม่น้อย เคราะห์ดีที่งดจิบเบียร์ล่วงหน้ากันตั้งแต่เข้าพรรษา วันนี้ตื่นเช้ามาซดน้ำเป็นขวดๆ งดออกกำลังหนักๆ พักเที่ยงทานข้าวเสร็จ รีบบึ่งรถไปพืชสวนโลก ทั้งที่บ้านอยู่ไกลแค่ 3 ไฟแดง จากคลองชลประทานเลี้ยวเข้ามา รถราขวักไขว่หาซื้อดอกมะลิไปไหว้พระธาตุดอยคำกัน พอถึงวงเวียนช้าง มุ่งตรงไปอุทยานฯ รถก็เริ่มโล่ง มีรถบางคันชะลอจอดเงอะงะอยู่บ้าง คล้ายจะรอถามว่า ทำไมไม่มีใครตามฉันเข้ามาเลย

อาจจะขัดกับความรู้สึกทุกครั้งที่มาพืชสวนโลก สถานที่นี้มักใช้จัดกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากๆ อย่างมหกรรมพืชสวนโลก งานวิ่งการกุศล ฯลฯ รถทุกคันแทบปีนกันไปแย่งที่จอดรถ แต่วันนี้คือกิจกรรมจำกัดคน การนัดฉีดวัคซีน ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎแห่งการเว้นระยะห่าง เริ่มตั้งแต่ลานจอดรถกว้างขวาง จอดห่างกันคันเว้นกันยังได้ จอดรถเสร็จมีรถไฟฟ้ามาเทียบเชิญ รับไปฉีดวัคซีนถึงที่ ผู้โดยสารขึ้นไปพอหลวมๆ ยังไม่ทันเต็มคัน รถก็ออก สบายเยี่ยงนี้ จะไม่ให้เรียกว่า วีวีไอพีได้อย่างไร


ครู่เดียวก็ถึง ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 รพ.นครพิงค์ อุทยานหลวงราชพฤกษ์  รถจอดเทียบหน้าทางเข้า มีเจ้าหน้าที่มารอรับ ให้ยื่นบัตรประชาชน และหลักฐานการนัดรับวัคซีน ตรวจอุณหภูมิ ใครเกิน 37 ให้นั่งรอก่อน ถ้าผ่านแล้ว รับเอกสาร “แบบคัดกรองและใบยินยอมรับบริการวัคซีนโควิด 19” ไปนั่งกรอกข้อมูลเบื้องต้น ก่อนที่จะเข้าไปยื่นยังด่านที่ 1 คือลงทะเบียน ซักประวัติ วัดความดัน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ คอยซักถามข้อมูลสุขภาพ ตรวจสอบ ประเมิน เพื่อจะพิจารณาว่า จะรับวัคซีนได้หรือไม่ พร้อมแจ้งว่า เข็มแรกนี้จะได้ฉีดวัคซีนซิโนแวค นะจ๊ะ


ซักประวัติเสร็จอย่างเพิ่งเก็บบัตรประชาชน ในห้องถัดไปต้องใช้เสียบคอมพ์ฯ ลงทะเบียน โดยมีเจ้าหน้าที่คอยจัดระเบียบคิว เว้นระยะห่าง เหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรี พอคอมพ์ฯ เครื่องไหนว่างก็จะทยอยเรียกไป ระหว่างเจ้าหน้าที่คีย์ข้อมูลลงในระบบ จะมีหน้าจอให้คอยตรวจสอบ ข้อมูลใดไม่ตรงก็สามารถทักท้วงได้ หรือใครมีข้อสงสัยเรื่องวัคซีน จะมีห้องปรึกษาแพทย์อยู่จุดนี้ ส่วนวัดความดัน ถ้ามั่นใจแข็งแรงดี ไม่ประสงค์จะวัด เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้บังคับ เดินผ่านไปยังด่านต่อไป คือห้องฉีดวัคซีนได้เลย


ห้องฉีดวัคซีน เป็นห้องโถงใหญ่ วันนี้มีจุดเปิดให้บริการอยู่ 6 จุด มีจุดที่เตรียมไว้ด้านข้างอีก น่าจะ 6 - 7 จุด การฉีดวัคซีนแบบเต็มศักยภาพน่าจะได้ประมาณ 13 – 15 จุด โดยผู้เข้ารับวัคซีน จะไหลไปตามเก้าอี้ดนตรี แต่ละตัวเว้นระยะห่าง เลื่อนไปตามคิว ทั้งนี้ หน้าห้องฉีดวัคซีน มีป้ายห้ามถ่ายรูปติดอยู่ เลยไม่ได้บันทึกภาพบรรยากาศมาฝาก เพราะต้องเคารพสิทธิ์ผู้อื่น สถานที่ฉีดวัคซีนถือเป็นสถานพยาบาล ข้อมูลสุขภาพบุคคล ถือเป็นความลับ จะนำไปเปิดเผยทำให้บุคคลนั้นเสียหายไม่ได้

ถ่ายรูปผู้อื่นมีความผิด แต่ถ้าใครอยากถ่ายรูปตัวเองในห้องฉีดวัคซีน เอ่ยปากขอพี่พยาบาลใจดี คนที่จะฉีดวัคซีนให้ได้เลย น้องพยาบาลน่ารักๆ จะรีบมาถ่ายให้ทันที ถ้าต้องการป้ายโฟมบอร์ดสวยๆ มีให้ถือด้วยนะ ระหว่างนับ 1 – 3 มีมุขหลอกล่อให้ยิ้มกว้างๆ ทะลุแมสก์ด้วย มัวยิ้มให้น้องพยาบาลเพลินๆ พี่พยาบาลบอกฉีดเสร็จแล้วออกไปรอห้องสังเกตอาการได้เลย พี่พยาบาลมือเบามาก ยังไม่ทันรู้ตัวเลยว่าฉีดไปแล้ว รับโทรศัพท์คืนมายังยิ้มอยู่เลย ขอฉีดต่ออีกสักเข็มสองเข็มก็ไม่ได้ แหม่


ด่านต่อไป ห้องสังเกตอาการ หลังจากฉีดวัคซีน 30 นาที เจ้าหน้าที่จะระบุเวลาออกห้องไว้ให้ในเอกสาร ห้องนี้เป็นห้องโถงกว้างขวางใหญ่โต มีน้ำเปล่าแจกฟรี พี่พยาบาลแนะนำให้ดื่มน้ำเยอะๆ หยิบไปหานั่งดื่มได้เลย ทั่วห้องมีเก้าอี้กระจาย เว้นระยะห่างให้เลือกนั่งเต็มที่ ใครอาการไม่ดีให้ยกมือขึ้น เจ้าหน้าที่จะเข้ามาดูแลอย่างทันท่วงที อย่างพี่ที่นั่งข้างๆ ยกมือขึ้นเพราะรู้สึกเวียนหัว รีบมาฉีดวัคซีนยังไม่ได้กินข้าวเที่ยง ไม่รู้เพราะหิวข้าวหรือวัคซีน คุณพยาบาลก็ใจดี เอาขนมเอาน้ำมาให้ทาน 


พอได้ยินคำว่าเวียนหัว ก็เริ่มหวิวๆ บ้าง แต่คิดว่าน่าจะอุปาทานหมู่ หรือเป็นที่ห้องสังเกตอาการมากกว่า ผนังห้องโถงด้านหนึ่งจะเอียงสอบเข้าไป ไม่ได้ฉากกับแนวไฟบนเพดานสูง แสงไฟก็ซอฟโทนสลัวๆ สายตายาวของชายวัยกลางคนก็พร่ามัว หลบตาลงมองพื้นพรมก็ลายๆ มองไปมาคล้ายยืนบนอยู่พื้นเอียงๆ อันนี้เป็นโรคประจำตัว คล้ายตอนไปเที่ยวบ้านกลับหัวที่พัทยา โลกมันหมุนติ้วไปหมด ก็เลยลองเปลี่ยนอิริยาบถ โฟกัสใกล้ๆ แค่ในมือถือ โพสต์เฟสฯ เล่นไลน์ไปก็หายหวิว นั่งสังเกตอาการชิลล์ๆ ต่อไป


ระหว่างนั่งรอให้ครบ 30 นาที หลังพนักเก้าอี้ทุกตัว จะมี QR Code 2 แบบให้สแกน อันแรกคือ ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีน การปฏิบัติตัว และการสังเกตอาการหลังกลับบ้าน อีกอันคือแบบประเมินอาการ ให้ทำหลังจากนั่งรอจนครบ 30 นาที กรอกแบบประเมินเสร็จ ก็เอาเอกสารไปวางที่จุดรับใบนัด ไปนั่งรอข้างประตูทางออกอีกไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็ขานชื่อให้ไปรับใบนัด เป็นอันเสร็จพิธี ทุกขั้นตอนมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี เดินตามป้ายทางออกไปนั่งรถไฟฟ้า กลับไปยังลานจอดรถได้เลย


เข็มแรก ผ่านพ้นไปด้วยดี เจอกันอีกที 3 สัปดาห์ เข็มที่สอง 26 สิงหาคม 2564 ขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ รพ.นครพิงค์ และ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องศูนย์ฉีดวัคซีนฯ พืชสวนโลกฯ ทุกท่าน ทุกวันนี้สถานการณ์โควิด-19 ยังคงวิกฤติต่อเนื่อง ผู้คนทั่วโลกติดเชื้อไปแล้ว 200 กว่าล้านคน ประเทศไทย ติดเชื้อเพิ่มวันละสองหมื่นกว่า เฉพาะการระบาดรอบ 3 นับหลังสงกรานต์ 64 มีผู้ติดเชื้อแล้วราว 7 แสนคน ในขณะที่โควิด All Time High แต่เศรษฐกิจก็ Sideway Down ลงไปเรื่อยๆ แต่ละคนก็เหนื่อยล้าไปตามๆ กัน


อีกวันมาลองเปิด App หมอพร้อม ประวัติการได้รับวัคซีน Update ให้แล้วอัตโนมัติ ครบ 2 เข็มเมื่อไรถึงจะได้ Vaccine Covid-19 Certificate ที่เหลือก็ต้องลุ้นกันต่อไป ว่าจะลองใช้หลัก Fatalism ดูบ้าง บางทีเราก็ไม่มีอำนาจในการควบคุมชะตากรรม จงสงบต่อสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม น้อมรับสถานการณ์ แล้วกระซิบบอกตัวเองเบาๆ ว่า “ช่าง...มัน” จากนั้นค่อยมาพิจารณา ว่าสิ่งไหนที่พอจะควบคุมได้บ้าง ไม่ต้องอ้างโทษฟ้าดิน จัดการดีดดิ้นลิขิตชีวิตตัวเอง ฟ้าดินอาจจะบรรเลงมั่วก็ได้ ใครจะไปรู้ ... สู้ๆ กันต่อไปครับ

ไม่มีความคิดเห็น: