ร้านรวงฝั่งตรงข้ามโรงแรมเทียนอันเรกา สร้างเป็นลักษณะบ้านโบราณชั้นเดียวหลังเล็กๆ หลังคามุงกระเบื้องสีเทาที่เรียกว่าผิงฝาง แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงอาณาเขตด้านข้างของพระราชวัง สร้างกลิ่นอายวัฒนธรรมเมืองเก่าได้เป็นอย่างดี แต่ดูแล้วไม่น่าจะมีทางให้ตัดตรงเข้าวัง ต้องเดินอ้อมออกไปเข้าด้านหน้าทางถนนใหญ่ จากถนนใหญ่หากเดินเลียบกำแพงสีแดงไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นจัตุรัสเทียนอันเหมิน มีทหารยืนเฝ้ากำแพงอยู่ กำแพงสูงประมาณ 5 เมตรได้ หรือควรจะเรียกว่ารั้วก็พอ เพราะกำแพงวังจริงๆ ข้างในสูงประมาณตึก 5 ชั้น ระหว่างทางก็จะมีอุโมงค์ให้มุดลงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่จะไปวังไม่ต้องมุดลงดิน มีซุ้มประตูทางเข้าอยู่ไม่ไกล

ขณะนี้เวลาเริ่มสายเกินไปที่จะแวะเที่ยวเทียนอันเหมิน เพราะพื้นที่เทียนอันเหมิน และสถานที่ราชการสำคัญโดยรอบ เป็นพื้นที่ควบคุม แม้ว่าตามข้างทาง หรือสี่แยกต่างๆ จะมีรถตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร ประจำอยู่ทุกระยะ ก่อนจะเข้าออกสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็ต้องผ่านการตรวจกระเป๋าสัมภาระอย่างละเอียด แต่การจะเข้าไปเทียนอันเหมินต้องเผื่อเวลาเข้าแถวอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เบียดเสียดไปกับคลื่นมหาชนยาวเหยียด ที่ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นอย่างละเอียดเข้มงวด ถึงขั้นว่าแม้จะเป็นคนจีน ไม่มีของผิดกฎหมาย แต่ถ้าไม่ได้พกบัตรประชาชนมาให้เจ้าหน้าที่สแกนก็ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้
ที่สำคัญ ตั้งแต่เทียนอันเหมิน ไปจนถึงพระราชวังต้องห้าม ไม่มีอาหารขาย แต่บริเวณนี้อาหารการกินเพียบ มีทั้งล้อเข็น ทั้งจักรยานเร่ขายขนมพื้นถิ่น อย่าง "ปิงถังหูลู่" หรือผลไม้ชุบน้ำตาล แต่เดิมใช้ผลซานจา หน้าตาคล้ายๆ พุทรา แต่รสชาดไม่ใช่ ปัจจุบันฟิวชั่นไปใช้ผลไม้หลากชนิด ชิมดูแล้ว สตรอเบอรี่อร่อยกว่าซานจา ราคาไม้ละ 15 หยวน ข้าวโพดร้อนๆ แก้หนาวฝักละ 5 หยวน เดินไปกินไปใกล้เที่ยงเยี่ยงนี้ แวะทานก๋วยเตี๋ยวข้างทางดีกว่า ดูเมนูมีตั้งแต่ 15 – 25 หยวน ชี้เอาตามโต๊ะข้างๆ อีกแล้ว เส้นโตๆ คล้ายอุด้ง ชามละ 20 หยวน ถึงเป็นร้านนั่งโต๊ะเป็นกิจจะลักษณะ แต่ชามก็เอาถุงพลาสติกคลุมมาเสิร์ฟ เหมือนร้านข้างทางแถวเซินเจิ้น ส่วนน้ำเปล่าบนโต๊ะอาหารไม่ต้องพูดถึง เป็นอะไรที่หาดูยากอยู่แล้วในเมืองจีน


จากร้านก๋วยเตี๋ยวเดินมาไม่ไกล ก็พบกับกำแพงวังด้านข้างทางทิศตะวันออก พอมาเจอของจริงก็ไม่รู้จะเรียกกำแพงได้ไหม เพราะตึก 5 ชั้นก็ดูจะเล็กไปถ้าเทียบกับกำแพงวัง มีสะพานข้ามคูเมืองไปยังมีซุ้มประตูฝั่งตะวันออก แต่ไม่อนุญาตให้เข้าไป ต้องเดินเลียบกำแพงวังไปทางทิศใต้เพื่อไปเข้าประตูด้านหน้า ในแผนที่ตรงนี้เรียกถนนตงหัวเหมิน มีจุดบริการรถรับส่งไปด้านหน้าวังด้วย แต่อากงอาม่ารอคิวอยู่เยอะเหลือเกิน เดินเล่นถ่ายรูปไปเพลินๆ ดีกว่า คูเมืองนี้ก็ไม่รู้จะเรียกอะไรดี คลองดีไหม เพราะกว้างและลึกมาก แถมเย็นจัดจนกลายเป็นผืนน้ำแข็ง อย่าคิดถึงเรื่องจะข้าม แค่ตกลงไปก็ท่าจะไม่รอด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น