2566-05-30

คิดถึงเวียดนาม เลยมาตามสัญญา ซินจ่าวฮอยอัน (เวียดนาม 10)

(เวียดนาม 7) (เวียดนาม 8) (เวียดนาม 9) (เวียดนาม 11) (เวียดนาม 12) (เวียดนาม 13)

วันเวลา เป็นฝ่ายชนะเสมอ อย่าได้เผลอดื้อแพ่งดันทุรัง เวลาอันทรงพลังพลิกผันได้ทุกสิ่ง ทั้งโควิดที่น่าชิงชัง ฉุดคร่าทริปเกาหลี ค่าที่พักที่ไม่ได้ไป ก็ไม่ได้คืน ทนฝืนยิ้มให้มันผ่านไปกับสายลม ตั๋วเครื่องบินเองก็ยังครึ้มฟ้าครึ้มฝน ค้างเติ่งเป็นเครดิตไว้ เค้าให้เก็บไว้ใช้ไปไกลๆ เกาหลีญี่ปุ่นขึ้นไป ใจเย็นๆ อย่าลืมว่าเวลาชนะเสมอ


การเดินทางเป็นส่วนสำคัญในการเรียนรู้ชีวิต อดีตเมืองท่าที่ยิ่งใหญ่ปากแม่น้ำทูโบน เริ่มส่งเสียงเพรียกหา เมืองฮอยอัน เมืองเล็กๆ ริมฝั่งทะเลจีนใต้ เมื่อราว 400 ปีก่อน จัดได้ว่าเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พ่อค้าต่างชาติจากทุกมุมโลก เคยพากันอพยพย้ายถิ่นฐานมาทำมาค้าขายยังเมืองฮอยอัน จังหวัดกว๋าวนาม ประเทศเวียดนาม


เที่ยวบินตรง เชียงใหม่-ดานัง พาลัดฟ้าสู่เวียดนามแต่เช้าตรู่ บรรยากาศสนามบินยังคงอบอุ่น คุ้นเคยเป็นกันเอง เจ้าหน้าที่ ตม. รปภ. แม่ค้า แม่บ้าน พูดไทยเป็นคำๆ ได้ชัดเจนเหมือนเดิม เพิ่มเติมค่าซิมโทรศัพท์ เพิ่มจาก 260 บาท กลายเป็น 340 บาทไทย มารอบนี้ไม่มีตังค์ทอนเป็นเงินไทยให้ด้วย ยังดีพอมีแบ็งค์ 20 ติดกระเป๋าอยู่บ้าง


จริงๆ แล้วถ้ามีเงินด่อง ใช้เงินด่องซื้อซิมเลยจะคุ้มกว่า แต่ถ้าไม่ได้เตรียมมาก็เดินไปแลกเงินหน้าสนามบินกันได้ อัตราแลกเปลี่ยน พ.ค. 2566 เงินไทย 1,000 บาท แลกได้ 680,000 ด่อง หรือคิดกลับกัน หมื่นด่องละ 14.7 บาท ขอปัดขึ้นเป็นหมื่นละ 15 บาทละกัน จะได้คิดง่ายๆ ซิมเน็ต 7 วัน 220,000 ด่อง คิดเป็นเงินไทยก็แค่ 330 บาท ถูกลงไปอีก 10 บาท 


เงินด่องพร้อม อินเตอร์เน็ตพร้อม ก็เข้าแอพเรียกแกร็บไปฮอยอันกันเลย จากสนามบินดานังไป โรงแรม Le Pavillon Hoi An Central Villa ใช้เวลาเกือบชั่วโมงก็ถึงฮอยอัน ค่ารถในแอพ 396,000 ด่อง รวมค่าสนามบินอีกหมื่นด่อง รวมแล้วก็ 406,000 ด่อง จ่ายแบ็งค์ 500,000 ด่องให้ไป โชเฟอร์ใจดี ทอนมา 100,000 ด่อง ลดให้ตั้ง 6,000 ด่อง เหลือค่ารถไปฮอยอันแค่ 400,000 ด่องเอง 


หรือเลข 0 มันเยอะไปเลยดูแพง ต่อไปขอเรียกสั้นๆ ตามคนเวียดนามว่าค่ารถ 400k ละกัน เทียบเป็นเงินไทย หมื่นด่องหรือ 10k เป็นเงิน 15 บาท ค่ารถ 400k ก็ประมาณ 600 บาท สงสัยอยู่ว่าที่เงินด่องต้องมีเลข 0 เยอะ อาจเป็นเพราะเวียดนามในอดีต เคยเกิดภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำสงครามอันยาวนานหรือเปล่า


คล้ายกับเงินเยอรมัน ญี่ปุ่น เกาหลี ในช่วงสงครามโลก พอสงครามสงบ เศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว บางประเทศก็ปรับหรือเปลี่ยนไปใช้สกุลอื่นก็มี แต่อีกหลายประเทศก็ไม่ได้คิดจะปรับค่าเงิน ขึ้นอยู่กับนโยบายการคลังของแต่ละประเทศ ถ้าเศรษฐกิจมันดี เลข 0 มาก 0 น้อย ดูจะไม่มีผลอะไรมาก ก็แค่เลื่อนจุดทศนิยม อย่างเหรียญสตางค์บ้านเราก็ยังใช้กันอยู่ 


คนเวียดนามก็แค่ทำให้มันซื้อขายง่าย อย่างน้ำดื่มก็ติดป้ายสั้นๆ 7k เตรียมตังค์ทอน 1k รอไว้เป็นปึก แต่บางประเทศ เช่น รัสเซีย บราซิล ก็เคยตัด 0 ทิ้ง หรืออย่างเวเนซุเอลา ต้องตัด 0 ทิ้งรวดเดียว 6 ตัวทีเดียว จาก 1US ดอลลาร์ เท่ากับ 4.18 ล้านโบลิวาร์ ปรับเป็น 4.18 โบลิวาร์ กรณีนี้เห็นเค้าว่ากระดาษที่เอามาพิมพ์แบงค์ แพงกว่ามูลค่าที่เขียนมันอยู่


ที่พักของเราคืนนี้ Le Pavillon Hoi An Central Villa จองผ่าน Agoda ห้อง Superior 2 ห้อง 2 คืน คิดเป็นเงินไทย 3317.57 บาท ภาษีและค่าธรรมเนียม 487.62 บาท รวมหักบัตรเครดิต 3805.19 บาท เฉลี่ยคืนละ 951.2975  บาทต่อห้อง นั่นไง เศษสตางค์ใครว่าไม่สำคัญ บ้านเราเหรียญ 25 สตางค์ยังใช้ทอนในร้านสะดวกซื้ออยู่ ขายของล้านชิ้นก็สองแสนห้าแล้วนะ 

ไม่มีความคิดเห็น: