2562-11-29

งดงามตามท้องเรื่อง เมืองดานัง วันหน้าวันหลังจะมาใหม่ (เวียดนาม 9)

(เวียดนาม 6) (เวียดนาม 7) (เวียดนาม 8) (เวียดนาม 10) (เวียดนาม 11) (เวียดนาม 12)
พอขึ้นจากทะเลหาดหมีเคว เด็กๆ ก็ห่มผ้าเช็ดตัวเดินกลับไปอาบน้ำโรงแรม ระหว่างทางเห็นตึกเก่าๆ ห้องหนึ่งยังคงเปิดให้บริการอาบน้ำจืด สำหรับกรุ๊ปทัวร์ หรือแวะมาล้างตัวหลังเล่นน้ำทะเล แต่ก็เหลืออยู่เพียงคูหาเดียว โดดเดี่ยวท่ามกลางซากปรักหักพังของซากตึกที่ถูกทุบทิ้งโดยรอบ คาดเดาได้ไม่ยากว่าอีกไม่นานก็คงโดนทุบทิ้งเช่นกัน ต่อจากนั้น ก็จะเนรมิตโรงแรมหรู ขึ้นมาแทนที่ ตามนโยบายพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่เอื้อต่อนักลงทุนต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเช่าที่ดิน การให้สิทธิซื้ออสังหาริมทรัพย์ หรือห้องชุด การใช้สกุลเงินตราใน EEC หรือสิทธิพิเศษด้านภาษี

เย็นย่ำค่ำสนทยา มาเที่ยวหาดหมีเคว อย่าได้เผลอนั่งเหม่อรอชมพระอาทิตย์ตกทะเลยามเย็น เพราะเวียดนามเป็นทะเลฝั่งตะวันออกเหมือนทะเลภาคใต้บ้านเรา แม้จะมีทะเลด้านเดียวแต่เวียดนามก็มีชายฝั่งยาวถึง 3,444 กิโลเมตร ยาวกว่าไทย ที่ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามันรวมกันได้แค่ 3,219 กิโลเมตร ดานังเป็นเมืองตากอากาศริมทะเล หาอาหารทะเลทานได้ไม่ยาก จะเอา Seafood สุดหรูริมทะเลก็มี ร้านดีๆ ข้างทางก็เยอะ แต่เย็นนี้หมายมั่นปั้นมือจะไปร้าน Bé ni 2 มีรุ่นน้องผู้คร่ำหวอดในวงการ แนะนำมา เค้าว่าร้านนี้อาหารทะเลสด บรรยากาศดี ราคามิตรภาพ

ร้าน Bé ni 2 ไม่ได้อยู่กลางทะเล แต่กุ้งหอยปูปลากระโดดขึ้นมาจากทะเล ข้ามถนนเลียบชายหาดหมีเคว มาอยู่ในกระชัง แหวกว่ายกระแด่วๆ โชว์ตัวอยู่ในถัง ให้ลูกค้าออกคำสั่งประหาร ให้ลูกค้าสวมวิญญาณเปาบุ้นจิ้น อยากกินตัวไหนก็ชี้เอา ลูกสาวอยากกินกุ้งขาว ถามพ่อค้าว่าเอาทำอะไรได้บ้าง หนุ่มเวียดนามตอบสั้นๆ ว่า “บาร์บีคิว” ก็เป็นอันเข้าใจ ไม่ย่างก็เผา เอามากิโลนึง ข้าวผัดทะเลจานใหญ่ ทานกับหม้อไฟร้อนๆ สักชุด ระหว่างรออาหารมีออร์เดิร์ฟ ไข่นกกระทา กับถั่วต้มให้ทาน เครื่องปรุง พริก กระเทียม ซอส มะนาว น้ำปลา ฯลฯ จะเอาน้ำจิ้มกี่รส ก็เลือกปรุงเองได้เองพร้อมสรรพ

อิ่มอร่อยจนทานแทบไม่หมด หลังๆ เริ่มตักให้กันกิน เช็คบิลมา 716,000 ด่อง เป็นกุ้งขาว 10 ขีด 400,000 ด่อง เพิ่งรู้ว่าสั่งเป็นขีดก็ได้ รู้งี้แบ่งไปทำเป็นหลายๆ อย่าง หม้อไฟ 180,000 ด่อง น้ำเปล่า 2 ขวด 16,000 ด่อง ข้าวผัด 80,000 ด่อง เหลืออีกรายการ 40,000 ด่อง ไม่รู้ว่าคืออะไร ไม่น่าใช่น้ำแข็ง แต่น่าจะเป็นออร์เดิร์ฟ ไข่นกกับถั่วต้มมากกว่า สรุปว่าไม่น่าจะฟรี เพราะไม่มีรายการอื่นแล้ว ก่อนเดินกลับโรงแรมแวะมินิมาร์ท ข้างโรงแรม ซื้อน้ำเปล่าไปทานในห้อง ขวดใหญ่ 1.5 ลิตร 15,000 ด่อง ขวดเล็ก 6,000 ด่อง ขนมเด็กๆ ข้าวเกรียบกุ้ง 30,000 ด่อง หมากฝรั่ง 6,000 ด่อง


ราคามินิบาร์ในห้องพัก โรงแรม Adaline น้ำเปล่าขวดเล็ก 15,000 ด่อง ไทเกอร์เบียร์ กระป๋องละ 24,000 ด่อง กระทิงแดงกระป๋องละ 25,000 ด่อง น้ำอัดลมโค้ก สไปรท์ กระป๋องละ 20,000 ด่อง ใครเผลอกินไปก่อนแล้วไม่อยากจ่ายแพง ก่อนเช็คเอาท์ก็เดินลงไปซื้อโชว์ห่วยปากซอยตึกข้างๆ หรือมินิมาร์ทใกล้ๆ มาแช่ตู้เย็นคืนก็ได้ สำหรับอาหารเช้าโรงแรม บุฟเฟ่ต์นานาชาติฟรี คือคุณค่าที่เราคู่ควร เชฟได้รังสรรค์อาหารยุโรป จัดคู่อาหารพื้นถิ่นคาวหวานให้เลือกมากมาย เบื่อขนมปังกับหมูแฮม ก็ทานขนมปังฝรั่งเศสกับหมูยอเวียดนาม ฟิวชั่นกันได้เต็มที่ อิ่มหมีพีมันก็กลับไปจัดกระเป๋า เตรียมเช็คเอาท์ อำลาดานัง

เรียก Grab ขณะรอเช็คเอาท์ ยังไม่ทันจะยกกระเป๋าออกไป โชเฟอร์มารอหน้าโรงแรมแล้ว นั่งไปไม่ถึง 15 นาที ก็ถึงสนามบินดานัง ค่ารถ 33,000 ด่อง ค่าเข้าสนามบิน 10,000 ด่อง รวมก็ 70 กว่าบาท ยังมีเงินด่องเหลือนิดหน่อย กลับถึงเชียงใหม่กลัวไม่มีใครรับแลก เช็คอินผ่าน ตม. เรียบร้อย ตะลุยช็อพ ร้านดิวตี้ฟรีให้หมดละกัน แถวนี้รับทั้งเงินด่องและดอลลาร์ฯ ในอัตราเหรียญละ 23,000 ด่อง เดินขึ้นเครื่องก็คอยหลบกุบ หรือหมวกงอบเวียดนามกันหน่อย ผู้โดยสารถือขึ้นเครื่องคนละใบสองใบ สวมกุบขึ้นเครื่องแล้วใบหน้าจะเปื้อนยิ้มพิมพ์ใจ กลับไปด้วยความประทับใจ วันหน้าจะมาเที่ยวใหม่นะเวียดนาม

ไม่มีความคิดเห็น: