2562-07-01

ทิ้งบานาฮิลล์ไว้ ให้ชื่นชม มรดกจากเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส (เวียดนาม 3)

(เวียดนาม 1) (เวียดนาม 2) (เวียดนาม 4) (เวียดนาม 5) (เวียดนาม 6)
บานาฮิลล์ คือโรงแรมและสวนสนุกในธีมคาแรคเตอร์หมู่บ้านฝรั่งเศส สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ก็จะเป็นสไตล์ฝรั่งเศสในยุคกลาง ทั้งบ้านเรือน โบสถ์ ร้านกาแฟ ร้านขายขนมปัง รวมทั้งปราสาทราชวังที่มีสวนสนุกFantasy Park อยู่ข้างใน สวนดอกไม้ รูปปั้น รูปแกะสลักหรูหรา ประดับประดาอยู่ทั่วบริเวณ ตัวละครแนว Carnival Characters เดินแสดงสดไปมาทักทายและถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยว การแสดงดนตรี ร้องเพลง เต้นรำ นักแสดงล้วนแล้วแต่เป็นฝรั่งชาวยุโรป สร้างบรรยากาศแบบหมู่บ้านเล็กๆ ในฝรั่งเศสยุคกลาง ถ้าไม่หันไปสบตากับพนักงานส่วนบริการ ที่เป็นชาวเวียดนาม คอยส่งยิ้มให้ในสไตล์เอเชีย

อาคารสถานที่ต่างๆ ในบานาฮิลล์ ตั้งชื่อเป็นภาษาฝรั่งเศสทั้งหมด อย่างชื่ออาคารที่พักเป็นชื่อเมืองอย่าง Hotel de Paris, Hotel de Lyon หรือความหมายตรงตัวอย่าง สวนขนาดเล็ก Le Petit Jardin โชคดีที่สมัย ม.ปลาย เลือกเรียนศิลป์ภาษาฝรั่งเศส พอจะจำได้บ้างเป็นคำๆ แต่ในทุกวันนี้พนักงานบานาฮิลล์ หรือคนเวียดนามคนอื่นๆ ที่ได้พูดคุยด้วย ไม่พูดภาษาฝรั่งเศสกันแล้ว แต่ชาวเวียดนามพูดภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดี แม้ภาษาอังกฤษของเราจะงูๆ ปลาๆ พูดได้เป็นคำๆ คนเวียดนามก็เก่งพอจะเข้าใจที่เราสื่อสาร และพูดตอบมาเป็นคำๆ ให้เราได้เข้าใจเช่นกัน

เพื่อนชาวฝรั่งเศสเล่าว่าจะมีเหลือก็แต่คนเวียดนาม ยุค Baby Boomer ที่ยังพอพูดภาษาฝรั่งเศสได้ Gen-C ไม่ต้องพูดถึง แต่ถึงอย่างไรเวียดนามก็ดูจะสนิทสนมกับฝรั่งเศสมากกว่าใคร เพราะได้ตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสมาตั้งแต่ปี 2427 ฝรั่งเศสจึงมีบทบาทต่อเวียดนามเป็นอย่างมาก อย่างภาษาเขียนเวียดนามแต่เดิมใช้ภาษาจีน ฝรั่งเศสได้เปลี่ยนจากอักษรจีน มาเป็นตัวอักษรโรมันแทน โดยพัฒนาต่อมาจากมิชชั่นนารีชาวโปรตุเกส ทุกวันนี้จึงเห็นภาษาเขียนเวียดนามเป็นภาษาอังกฤษแล้วมีตัวยึกยือ ขีดบน ขีดล่าง คล้าย “อักซอง” Les Accents ตามภาษาฝรั่งเศส เพื่อช่วยในการเขียนตามการออกเสียง

ในช่วงที่เวียดนามเป็นเมืองขึ้นฝรั่งเศส บานาฮิลล์ ได้เริ่มถือกำเนิดขึ้นในปี 2441 นาย Paul Doumer อดีตประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าการอินโดจีนฝรั่งเศส ได้สั่งให้กัปตัน Victor Adrien Debay แห่งกองทัพฝรั่งเศส ลาดตระเวนทั่วพื้นที่ภูเขา ดานัง-เว้ เพื่อมองหาที่พักตากอากาศสำหรับให้ขุนนางฝรั่งเศส และทหารประจำการมาพักผ่อน จนในปี 2444 กัปตัน Debay ก็ได้สำรวจพบ Nui Chua หรือ ภูเขาบานา บริเวณยอดเขาสูงมีภูมิประเทศเหมาะแก่การสร้างหมู่บ้านฝรั่งเศส ผู้ว่าการอินโดจีนฝรั่งเศสคนต่อมา Mr. Albert Sarraut ได้เห็นชอบ และสั่งการให้สร้างบานาฮิลล์ขึ้น

สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้สิ้นสุดลงในปี 2461 ไล่เลี่ยกับที่ฝรั่งเศสสร้างถนนทางขึ้นบานาฮิลล์เสร็จสมบูรณ์ในปี 2462 มีการสร้างบ้านพัก โรงแรม รีสอร์ต และสาธารณูปโภคต่างๆ ให้ขุนนางฝรั่งเศสและทหารประจำการ รวมทั้งชาวฝรั่งเศสที่กลับประเทศไม่ได้เพราะภาวะสงคราม เป็นสถานที่ตากอากาศที่ได้รับความนิยมสำหรับชาวฝรั่งเศส เรื่อยมาจนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้ยกกำลังเข้ายึดอินโดจีนของฝรั่งเศส และได้ประกาศยกเลิกอำนาจการปกครองของฝรั่งเศสในปี 2483 และภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงในปี 2488 ลุงโฮจิมินห์ ก็ได้ประกาศอิสรภาพ และสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม

หลังจากลุงโฮจิมินห์ ได้เป็นประธานาธิบดีฯ ในปี 2488 ทหารฝรั่งเศสได้ทยอยออกจากเวียดนาม ชาวเวียดนามพื้นถิ่น ที่เคยทำงานบนบานาฮิลล์ ก็ได้อพยพกลับภูมิลำเนา บานาฮิลล์ถูกปล่อยให้รกร้าง กอปรกับต่อจากนั้นได้เกิดสงครามเวียดนามขึ้นตั้งแต่ปี 2493 ถึงปี 2518 เวียดนามต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปี ในการฟื้นฟูประเทศ จนเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ปี 2552 บานาฮิลล์ ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง แถมกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยเคเบิลคาร์ กระเช้าลอยฟ้าที่คว้ามา 4 รางวัลสถิติโลก บันทึกลงกินเนสส์ บุ๊ค ให้คนทั่วโลก เริ่มหันมามองบานาฮิลล์ ในฐานะจุดหมายสำคัญในการท่องเที่ยวเวียดนาม

(เวียดนาม 1) (เวียดนาม 2) (เวียดนาม 4) (เวียดนาม 5) (เวียดนาม 6)

ไม่มีความคิดเห็น: