2555-05-09

เขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่

หลังจากที่พระพิรุณส่งสายฝนโปรยปรายมาหลายวัน เมฆหนาทึบทาบทับผืนฟ้า สร้างบรรยากาศหลากอารมณ์ต่างๆ นาๆ แล้วแต่จะว่ากันไป วันหยุดชดเชย 7 พ.ค. 2555 ตลาดลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศหยุดไปกับเค้าด้วย โอกาสและจังหวะดีๆ เช่นนี้ เหมาะแก่การปัดฝุ่นจักรยานคู่ชีพ ออกไปตะลุยสายลม ผสมปนเปกับสายฝน สูดโอโซน คลุกเคล้ากลิ่นโคลนคละเคล้ากันไป



จากถนนนิมมานเหมินทร์ พุ่งตรงไปแยกข่วงสิงห์ ผ่านแยกแม่โจ้ ไปเลี้ยวซ้ายที่แยกศาลเด็ก คราวนี้ก็พุ่งตรงไปยังจุดหมาย เขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ แวะพักเหนื่อยที่กิโลเมตรที่ 20 จากมิเตอร์จักรยาน พบศาลาริมทาง มีทุ่งนาสีเหลืองทองเป็นฉากหลัง มีสำรับกับข้าวกับปลา ที่นำมาสูมาคารวะเจ้าที่เจ้าทางวางอยู่หลายมุม ด้วยวัฒนธรรมความเชื่อชาวล้านนา เมื่อมาอาศัยร่มชายคาพักพิง ก่อนจะอิ่มเอมกับอาหารคาวหวานที่นำมา ก็ควรนำมาคารวะเจ้าที่เจ้าทางเสียก่อน

เส้นทางนี้ประหนึ่งประตูเมืองด้านทิศเหนือของเชียงใหม่ มุ่งตรงไปยังจังหวัดเชียงราย นั่นหมายถึงสามารถข้ามไปยังฝั่งพม่าที่แม่สาย ปลายทางถึงเมืองจีนได้สบายๆ เพียงเริ่มต้นจากถนนสายนี้ แต่นักปั่นน่องสมัครเล่น คงไม่สามารถมากพอจะไปไกลถึงเพียงนั้น ก่อนจะถึงดอยแรกที่จะข้ามไปเชียงราย เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าเขื่อนแม่กวงเสียก่อน แม้เส้นทางสะดวกสบาย แต่เนินสุดท้ายก่อนขึ้นสู่เขื่อนดิน หลังจากเข้าสู่ประตูหน่วยบริหารจัดการประมงน้ำจืดเขื่อนแม่กวง ก็สูงชันพอประมาณ ซึ่งนักปั่นสามารถเลือกได้สองทาง

หลังจากผ่านประตูอุทยานเข้าไป ยังจำได้เมื่อ 2 ปีก่อน ปั่นตรงขึ้นไปเจอเขื่อนดินสูง 68 เมตร ก็เล่นเอาหมดแรงไปเหมือนกัน แม้จะพบสันเขื่อนยาว 610 เมตร ที่กั้นลำน้ำแม่กวง แต่แถบนั้นก็ไร้ผู้คนแลร้านรวง คราวนี้เริ่มรู้ทัน ปั่นเลี้ยวขวาขึ้นช่องเขาขาด สูงเพียง 42 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่น่าจะสวยกว่า มีแพตกปลาแลร้านรวงให้สังสรรค์เฮฮา สันโดยเขื่อนช่องเขาขาด สันเขื่อนยาว 640 เมตร เขื่อนทั้งสองด้านสามารถเดินทางลัดเหลี่ยมเขาไปหากันได้

ล่าสุดร้านค้าอาหารหน้าสันเขื่อน ทางเข้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ที่ 3 (แม่กวง) แจ้งว่า ทางการกำลังดำเนินการสร้างสะพานข้ามช่องเขาขาด บริเวณหน่วยบริหารจัดการประมงน้ำจืดเขื่อนแม่กวง เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปชื่นชมทัศนียภาพได้รอบบริเวณตัวเขื่อน นักปั่นทั้งหลายไม่ต้องยกรถลงเรือ ข้ามพาเสือภูเขาไปตะกายดอยโดยลำบากอีกแล้ว

พูดคุยกันพอหอมปากหอมคอ ก่อนปั่นกลับขอเติมพลังสักนิด ร้านค้าหน้าทางเข้าหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ร้านอาหารแห่งนี้ไม่มีอาหารตามสั่งขาย อย่าหวังเพียงข้าวกะเพราหรือข้าวไข่เจียว ที่นี่มีวัตถุดิบหลักแค่ “ปลา” กับ “ข้าว” เท่านั้น เวลาก็ล่วงเลย มองจากมุมสูงบนสันเขื่อนก็เห็นเมฆฝนก็โปรยสายล้อมหน้าล้อมหลัง ระหว่างทางที่ปั่นผ่านมาตั้งแต่ตัวอำเภอดอยสะเก็ดก็มองหาร้านอาหารไม่เห็น จำเป็นต้องตัดสินใจให้รวดเร็ว

ข้าวปลาทอด คือเมนูที่รวดเร็วที่สุดในการเติมพลังก่อนกลับบ้าน สิ่งที่เลือกได้คือชนิดของปลา หากแต่ปลาที่นี่ ไม่มีแบ่งขาย ต้องทอดทั้งตัว และปลาตัวเล็กที่สุดที่เลือกเพื่อเป็นวัตถุดิบพิเศษของเชฟกะทะเหล็กเย็นนี้ ได้แก่ปลานิล เชฟได้เสนอเมนู Fried fish with steamed rice สนนราคาปลา 150 บาท ข้าว 10 บาท น้ำ 10 บาท ทานแต่ผู้เดียว ยังไงก็ไม่หมด แต่ผู้ร่วมรายการก็ไม่ยอมปล่อยให้เหลือ เอาปลาที่เหลือค่อนตัวใส่ถุงมัดติดหน้ารถจักรยาน ปั่นลุยฝนกลับบ้าน

ระยะทางทั้งหมดทริปนี้ ไปกลับ 69.76 กิโลเมตร ใช้เวลาทั้งหมด 4 ชั่วโมง 11 นาที ใช้ความเร็วเฉลี่ย 16.7 กม. ต่อชั่วโมง ความเร็วสูงสุด 33.4 กม.ต่อชั่วโมง ใช้พลังงานไปทั้งหมด 748.9 กิโลแคลอรี่ พร้อมกับพกปลานิลทอดตัวโตจากลุ่มน้ำแม่กวง กลับไปให้ลูกได้กินอีกสองมื้อ เหลือให้แมวที่ร้านได้ลิ้มลองอีกจานใหญ่ ... ท่านประธานยังคงรำพึงรำพันตลอดรายการเชฟกะทะเหล็กเชียงใหม่ว่า ... ปลาเขื่อนแม่กวง ช่างมีรสชาดเอร็ดอร่อย อย่างนี้นี่เอง ... มิเสียแรงที่ปั่นไปชิมถึงริมเขื่อนนะคร๊าบ

2 ความคิดเห็น:

เอ๋ ครับ กล่าวว่า...

อ่า มาหวัดดี อ่านจบแล้ว เพื่อนท่าทางจะน่องแข็งแรงนะเนี่ย อิอิ

NEWS กล่าวว่า...

หวัดดีเพื่อนเอ๋ ไปเปิดพอร์ตอีกรอบหรือยัง เปลี่ยนโบรคเลย (หาที่มาร์ฯ สวยๆ) แล้วมาโบยบินเข้ากองไฟกัน 555