2566-11-16

แอบเนียนเป็นวัยรุ่นฮอยอัน กินลมชมวิว ภัตตาคารร้านชำ (เวียดนาม 16)

(เวียดนาม 13) (เวียดนาม 14) (เวียดนาม 15) (เวียดนาม 17) (เวียดนาม 18) (เวียดนาม 19)

ทานมื้อเย็นย่านเมืองเก่าฮอยอัน อิ่มหนำสำราญแล้ว ก็พากันเดินย่อยอาหารเลียบแม่น้ำทูโบน เพื่อกลับโรงแรมที่พัก ระหว่างทางมีสตรีทฟู๊ดเรียงราย ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ทำให้ฉุกคิดขึ้นได้ว่า เราเดินทางมาต่างถิ่น ถ้าเกิดหิวขึ้นมากลางดึก จะออกไปหาอะไรกินก็ลำบาก จากเหตุผลก็กลายเป็น ข้ออ้างในการกักตุนเสบียงทันที


หลังจากตัดสินใจด้วยเหตุผลอันน่าเชื่อถือ เราก็ได้เครปมา 2 อัน 3 หมื่นด่อง กลัวช็อคโกแล็ตที่ราด จะหกเลอะเทอะ ก็เลยเดินไปกินไป ยังไม่ทันกลับถึงโรงแรมก็หมดเสียแล้ว แต่ไม่ต้องห่วง ยังมี โรตีกล้วยหอมอีกอันละ 3 หมื่นด่อง Bánh mì ขนมปังเวียดนามไส้แน่น อีกอันละ 4 หมื่นด่อง ตุนเสบียงเล่นๆ กลัวหิวกลางดึก หมดไปเป็นแสน 


เดินถึงหน้าโรงแรม ร้านขายของชำข้างโรงแรม เค้ายกโต๊ะเก้าอี้ปิกนิก ข้ามถนนไปให้ลูกค้านั่งเอกเขนก กินลมชมวิวบนฟุตบาทริมฝั่งแม่น้ำ บรรยากาศคล้ายๆ คูเมืองเชียงใหม่ สมัยที่ยังให้วัยรุ่นนั่งเล่นริมคูเมืองได้ เพื่อนฝูงที่มาจากต่างจังหวัด มักชวนกันไปนั่งเล่นริมคูเมือง ยังแอบถามกลับว่าคูเมืองมีอะไรให้ชื่นชม ขับรถผ่านอยู่ทุกวัน ไม่เห็นมีอะไร



เหตุเพราะผ่านอยู่ทุกวัน มันก็เลยดูธรรมดา ทัศนคติของเราทำให้มันดูธรรมดา มุมมองมักตัดสินและตีตราเรื่องราวต่างๆ รอบตัวว่า ดีหรือร้าย บวกหรือลบ ภัตตาคารฟุตบาทริมน้ำยามนี้ก็เช่นกัน ดูเหมือนจะธรรมดา แค่แม่น้ำกว้างกว่า ถนนหนทางรถราน้อยกว่า เสียงบีบแตรเยอะกว่า บรรยากาศที่แตกต่าง ทำให้มุมมองของเรากลับตัดสินว่า มันน่าค้นหา และไม่ธรรมดา


คืนนี้ฟ้าใส จันทร์สวย ลมพัดเย็น ลมบกหรือลมทะเลก็ไม่รู้ รู้แต่บรรยากาศดีจนอดใจไม่ไหว เดินไปหยิบเครื่องดื่มในตู้แช่ร้านชำข้างโรงแรม ออกไปนั่งชมจันทร์กัน เบียร์เสือกระป๋องละ 2 หมื่น แกล้มด้วยลูกชิ้นปิ้งร้อนๆ อีกไม้ละหมื่น นั่งดื่มด่ำอยู่สักพัก วัยรุ่นจ้าวถิ่นก็แวะมา แว้นมอเตอร์ไซค์กันขึ้นมาจอดเต็มฟุตบาทหน้าโรงแรม ส่งเสียงเอะอะเจี๊ยวจ๊าว


เสียงเร่งเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม เสียงพูดคุยทักทายกันลั่นถนน วัยรุ่นทั้งหญิงชาย นับสิบ เดินข้ามถนนมาฝั่งริมน้ำที่เรานั่งอยู่ จากนั้นก็แสดงความเป็นเจ้าถิ่นด้วยการ ยกโต๊ะข้างๆ เราไปต่อกันยาว โต๊ะเก้าอี้ กระทบกันไปมากับฟุตบาทเสียงดัง เราเริ่มเกร็งตัวลีบ พยายามหันไปยิ้มหวานๆ ให้ พร้อมกับส่งภาษามือไปว่า โต๊ะเรามีเก้าอี้เหลือนะ เอาเก้าอี้ไหมจ๊ะ?


วัยรุ่นหนุ่มสาวเวียดนามหันมายิ้มตอบ ดูยังไงก็น่าจะอยู่ในวัยเรียน วันรุ่นเดินมายกเอาเก้าอี้จากโต๊ะเราอย่างสุภาพ แอบชำเลืองดูทั้งโต๊ะสั่งเครื่องดื่ม Sting คนละขวด เทใส่แก้วน้ำแข็งเปล่า มี 2 สี แดงกับเหลือง รินเสร็จก็นั่งดื่ม นั่งคุยกัน หัวเราะสนุกสนาน คุยกันออกรสจนอยากมีวุ้นแปลภาษาจะได้แอบฟังรู้เรื่อง ดื่มหมดคนละขวดสองขวด สักพักก็พากันกลับ 


หลังจากวัยรุ่นกลับไปกันหมดแล้ว ลองเรียกเจ๊ร้านชำมาถามว่าเค้ามาดื่มอะไรกัน เจ๊บอกว่าซอฟต์ดริงค์ โนแอลกอฮอล์ มิน่าล่ะ ไม่เห็นมีใครเมา ลองสั่งมาชิมดูบ้าง ขวดละหมื่นห้า น้ำหวานจริงๆ หวานเจี๊ยบคล้ายเครื่องดื่มชูกำลัง น้ำหวานขวดนี้สอนให้รู้ว่า ไม่ควรเอาอดีตของเรา ไปไล่ตัดสินคนอื่น วัยรุ่นเที่ยวกลางคืน เค้าไม่จำเป็นต้องกินเหล้าเมายากันแล้ว


 (เวียดนาม 13) (เวียดนาม 14) (เวียดนาม 15) (เวียดนาม 17) (เวียดนาม 18) (เวียดนาม 19)

ไม่มีความคิดเห็น: