ใกล้ๆ เชียงใหม่ มองไปทางใต้ก็เริ่มเบื่อ มองเอียงๆ ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือกันบ้าง พะเยาบรรยากาศดี ขับรถก็ไม่ไกล สมัยเรียน แว้นมอเตอร์ไซค์ไปกลับในวันก็เคยมี แค่คิดเล่นๆ ภาพความทรงจำเมื่อ 25 ปีก่อนก็เริ่มโผล่มาหยอกเย้า ไอ้หนุ่มผมยาวสะพายกีตาร์ซิ่งมอเตอร์ไซค์ไปนั่งร้องเพลงอยู่ริมกว๊าน สมัยไปฝึกงานที่พะเยา แว่วเพลงพะเยารอเธอยังไม่ทันจบ ก็เผลอคลิกไปจองโรงแรมซะแล้ว พะเยาเกทเวย์ โรงแรมเก่าแก่ระดับตำนาน ตั้งอยู่ไม่ไกลกว๊าน มีฟิตเนส สระว่ายน้ำ ที่สำคัญคือเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
สิ้นยุคพระยางำเมือง พะเยาถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านนา โดยเป็นเมืองที่ขึ้นอยู่กับจังหวัดเชียงราย ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 ได้ยุบเลิกตำแหน่งเจ้าผู้ครองเมือง แล้วเปลี่ยนเป็นอำเภอพะเยา ย้ายมาขึ้นอยู่กับจังหวัดลำปางแทน จนมาในปี พ.ศ.2520 รัชกาลที่ 9 ได้โปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะอำเภอพะเยาขึ้นเป็นจังหวัดพะเยา จังหวัดที่มีทะเลสาบน้ำจืดกว้างใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ และแน่นอนว่า ที่ใดมีแหล่งน้ำ ที่นั่นมักมีเรื่องเล่าตำนานพญานาคอยู่เสมอ พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำอิง อย่างเมืองพะเยานี้ก็เช่นกัน
บึงเล็กๆ เรียก “บวก” บึงใหญ่ๆ เรียก “หนอง” พะเยามีบวกมีหนองมากมาย หนองใหญ่สุด คือ “หนองเอี้ยง” ชาวบ้านเชื่อกันว่า ในบรรพกาลพระโพธิสัตว์เคยเสวยพระชาติเป็นนกเอี้ยง อาศัยอยู่บนดอยจอมทอง และบินมาดื่มอาบหนองน้ำแห่งนี้ทุกวัน จึงเรียกติดปากกันมาในชื่อหนองเอี้ยง โดยหนองน้ำนี้มีพญานาคนามว่า “พญาธุมะสิกขี” เป็นเจ้าผู้ครองหนอง เรื่อยมาจนถึงยุคพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาฉันภัตตาหาร ริมหนองเอี้ยงแห่งนี้ เมื่อฉันเสร็จ พระอานนท์จะลงไปตักน้ำมาถวาย พญานาคเจ้าถิ่น ก็ได้เข้าทำการขัดขวาง
พระพุทธเจ้าจึงแสดงปาฏิหาริย์ เนรมิตร่างกายใหญ่โตให้ประจักษ์ พญาธุมะสิกขีจึงเกิดความเลื่อมใส ถวายตนรับใช้พระศาสนา พระพุทธเจ้าจึงได้สั่งว่าอีก 5 พันปี ให้มาสร้างรากฐานพระพุทธศาสนาไว้ที่นี่ พอครบ 5 พันปี พญาธุมะสิกขี ก็ได้แปลงร่างเป็นคนนุ่งขาวห่มขาว ไปเล่าให้สองตายายที่อาศัยอยู่ริมหนองฟัง พร้อมกับมอบทองคำจากเมืองพญานาคให้ตายายนำไปสร้างพระพุทธรูป กลายเป็น “พระเจ้าตนหลวง” พระคู่บ้านคู่เมืองพะเยา ที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดศรีโคมคำ ดังนั้น เมื่อมาถึงพะเยาอย่าลืมแวะไปถ่ายรูปเช็คอินกับพญานาคริมกว๊านด้วย เพื่อนจะได้รู้ว่าคุณมาถึงพะเยาแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น