(ตอนที่ 8) (ตอนที่ 9) (ตอนที่ 10) (ตอนที่ 12) (ตอนที่ 13) (ตอนที่ 14)
4 เมษายน 2553
เริ่ม 11.00 – 02.00 น.รวม 15 ชั่วโมง ตัดทานข้าว นวดเท้า 3 ชั่วโมง เหลือ 13 ชั่วโมง
เช้าวันที่ 4 เมษายน แม้จะเริ่มต้นค่อนข้างช้ากว่าทุกวัน แต่ทีมงานเดินทนก็ค่อนข้างสดชื่นแจ่มใส ออกเดินสำรวจหาอาหารเช้าบริเวณโดยรอบที่แตกต่างจากอาหารเช้าสองวันที่ผ่านมา จนเรามาสะดุดตากับร้านหมูหันเป็ดย่างห่านย่างฯลฯ แห่งหนึ่ง อยู่ไม่ไกลจากตึกที่พัก มีทั้งหมูหันไซด์เล็ก ไซด์ใหญ่ แขวนโชว์อยู่หน้าร้าน ช่างยั่วน้ำลายดีแท้ ลูกค้าที่มาซื้อส่วนมากจะซื้อเป็นตัวกลับไปกินบ้าน หรืออยากจะนั่งทานก็มีโต๊ะเก้าอี้ให้หลังร้านราว 10 ที่นั่ง ทีมงานไม่รอช้าที่จะเข้าไปถามไถ่ราคา เพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารอร่อยๆ แม้การสื่อสารจะค่อนข้างลำบากมาก แต่เราก็พยายามเพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารมื้อแรกของวันที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด

เราพยายามที่จะสั่งหมูหันตัวเล็กสักตัวมาทาน แต่คนขายก็พยายามสื่อสารกับเราว่า ขายเป็นตัว ไม่แบ่งขาย หากจะกินหมูหันเป็นจาน ต้องเป็นหมูหันตัวใหญ่ เค้าแบ่งขายราดข้าวเป็นจาน เราจึงตกลงลองกินหมูหันตัวใหญ่ราดข้าว คนละหนึ่งจาน แต่ทานไปทานมามีความรู้สึกว่า รสชาติคล้ายกับข้าวหมูกรอบบ้านเรา แม้จะสดและอร่อยมากกว่า แต่เราก็ยังอยากลองทานประเภทอื่นๆ ดูบ้าง เราจึงเดินไปสั่งเป็ดย่างตัวใหญ่ (หรือน่าจะเป็นห่าน) มาทานอีกครึ่งตัว โดยชี้ไปที่ตัวเต็มๆ เพื่อให้รู้ว่าเราต้องการทานเนื้อชนิดนี้ และ ชี้ไปที่ ครึ่งตัว เพื่อให้ทราบว่าเราจะทานแค่ครึ่งตัวนะ เพราะว่าเราไม่ได้มีความแค้นส่วนตัวอะไรกับเป็ด หรือเคยโดนเป็ดกินอวัยวะส่วนใดไป เพียงแต่ยังติดใจในรสชาดแสนอร่อยของเป็ดย่าง .. แค่นั้นเอง

การล้มเหลวทางการสื่อสาร ทำให้โต๊ะเราได้ลิ้มลองเป็ดยักษ์ (หรือห่าน) สามกล่องใหญ่ ด้วยเถ้าแก่คิดว่าเราต้องการเป็ดหนึ่งตัวครึ่ง งานนี้เป็ดยักษ์เลยล้นโต๊ะ เถ้าแก่หันมามองเป็นระยะ แต่เสี่ยวเอ้อ ทำหน้าเครียดๆ คล้ายจะรู้สึกผิดที่สื่อสารกับเราไม่ถูกต้อง หลังจากเราที่มองหน้ากันไปมาว่าเหตุใดเป็ดย่างจึงมาเต็มโต๊ะ แต่ทีมงานก็อดทนทานกันจนเหลือเพียงกล่องเดียว มื้อนี้อิ่มเอมกันเต็มที่ พร้อมมีเป็ดย่างกลับไปเป็นทิปให้พนักงานที่โรงแรมอีกหนึ่งกล่อง ราคารวมทั้งหมด 153 หยวน
หลังจากตะลุยเดินกันมาจนทั่ว เพื่อทราบประเภทสินค้าและราคา ในที่สุดในวันนี้ก็ได้ฤกษ์เจาะลึกเพื่อซื้อจริงๆ กันเสียที โดยทีมงานสรุปได้ว่าประเภทเสื้อผ้าเครื่องประดับ ย่านตงเหมินหน้าบ้านเรามีสินค้าเยอะและถูกกว่าที่อื่น เราจึงเริ่มต้นจากย่านตงเหมินเดินซ้ำซื้อสินค้าไปเรื่อยๆ ซึ่งในยามบ่ายเช่นนี้ ย่านตงเหมินคึกคักมากกว่าที่เราคิดไว้มากมาย กลยุทธส่งเสริมการขายแต่ละร้านงัดออกมาเรียกลูกค้ากันอย่างสะใจ มิใช่แค่ร้องตะโกนปาวๆ เหมือนบ้านเรา ต่อจากนั้นทีมงานได้ข้ามฝั่งไปทางทิศใต้ยังถนนหูเป่ย และมุดลงไปยังรถใต้ดิน

ช่วงบ่ายรถไฟฟ้าใต้ดินผู้คนล้นหลาม เราตัดสินใจเดินทางไปช่วงกลางๆ ของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่เรานั่งผ่านไปมาสองสามวันแต่ไม่ได้แวะ โดยตัดสินใจนั่งไปเพียง 2 สถานี มาโผล่ที่สถานี Da Ju Yuan Station ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าแถบนี้มีอะไร เมื่อขึ้นสู่บนดินก็พบว่าเป็นย่านธุรกิจขนาดใหญ่ มีทั้งธนาคาร ตลาดหุ้น (Shenzhen Stock Exchange) สัญลักษณ์คล้ายหยินหยางบ้านเรา ระแวกนี้มีโบรคเกอร์เยอะแยะมากมาย เราเดินย้อนกลับไปยังด้วยทิศทางที่คิดว่าน่าจะกลับไปที่พัก เที่ยวนี้เราไม่หลง หลังจากเดินผ่านย่านไฮโซที่เราเดินผ่านเมื่อคืนวานสดๆ ร้อนๆ
เดินไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก
เราจะเดินถึงที่พักและทานอาหารเย็นตรงเวลาบ้างหรือไม่
โปรดติดตามตอนต่อไป
(ตอนที่ 8) (ตอนที่ 9) (ตอนที่ 10) (ตอนที่ 12) (ตอนที่ 13) (ตอนที่ 14)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น