1 เมษายน 2553 23.20 น.
วาสนาของทีมเดินทนมิได้อาภัพไปเสียทีเดียว โชคชะตาฟ้าลิขิตให้หนึ่งในทีมงานเดินทนของเรา ได้พบกับ นักศึกษาจีน วิชาเอกภาษาไทย ที่ได้รับทุนแลกเปลี่ยนเพื่อมาเป็นอาจารย์สอนภาษาจีนในจุฬาฯ สามารถพูดไทยได้อย่างคล่องแคล่ว ทราบภายหลังว่าชื่อ “อ.อุ๊” (ชื่อที่เราจะเรียกได้ง่ายที่สุด) ได้มีน้ำใจให้ข้อแนะนำสำหรับนักเดินทางพเนจร พร้อมทำหน้าที่เป็นล่าม พูดคุยทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่โรงแรมที่พัก เพื่อให้ 5 หนุ่มพเนจร จะได้มีที่พักคืนนี้
หลังจาก อ.อุ๊ทราบว่า เรายังไม่สามารถจะหาทางจะเดินทางไปยังที่พักได้อย่างไร อ.อุ๊ ก็ได้พาเราไปนั่งรถบัสจากสนามบิน เพื่อเดินทางไปยังหัวเหลียนต้าซา สถานที่ ที่เราจะสามารถนั่งรถแท็กซี่ไปยังที่พักได้ เพราะจะเป็นทางเดียวที่เราจะออกจากสนามบินแห่งนี้ในเวลายามดึกเช่นนี้ สำหรับสนนราคาค่าบริการรถบัส จากสนามบินเซินเจิ้น คิดค่าบริการเพียงคนละ 20 หยวน ซึ่งหากเราเรียกแท็กซี่จากสนามบินเพื่อไปยังตงเหมิน อาจต้องเสียค่าแท็กซี่คันละไม่ต่ำกว่า 200 หยวน สำหรับค่าเงินหยวน ทีมงานเดินทน ซื้อหยวนได้จากแถวประตูน้ำ หยวนละ 4.83 บ. ต่อจากนี้ไปจะนับราคาหยวนที่ 5 บาท เพื่อความสะดวกในการคำนวณราคา
หลังจากนั่งรถบัสสนามบินไปที่หัวเหลียนต้าซา อ.อุ๊ ช่วยเรียกแท็กซี่ให้เราสองคัน (แท็กซี่ที่นี่ ให้นั่งคันละ 4 คนเท่านั้น เราต้องเรียก 2 คัน) ทีมงานเดินทนคนทั้ง 5 ของเรา ต้องขอขอบคุณอย่างแรงต่อ อ.อุ๊ ที่ไปส่งเราถึงที่พัก ทั้งที่บ้านของ อ.อุ๊ ไปคนละทางกับเรา แต่ อ.อุ๊และเพื่อนที่มารับที่หัวเหลียนต้าซา อุตส่าห์มาส่งเราถึงที่พัก ย่านหลงหู่ หรือหลอหวู่ ถนนตงเหมิน เราไม่ลืมที่จะแลกเบอร์โทรศัพท์ หากกลับมาเมืองไทยต้องมีการตอบแทนอย่างเต็มที่

วัยรุ่นที่พวยพุ่งมาจากฝั่งตรงข้ามถนน มุ่งตรงมายังร้านที่เรานั่งเป็นระยะ มาเป็นคู่บ้าง เป็นทีมบ้าง ไม่ต่างกับเมืองไทยสักเท่าไร จึงไม่แปลกใจที่ทีมงานจะเดินไปสำรวจฝั่งตรงกันข้ามหลังจากอิ่มหมีพีมันเป็นที่เรียบร้อย แล้วทีมงานก็พบว่าสถานที่อโคจรทั้งหลายแทรกซึมอยู่ทั่วไป วัยรุ่นจีนยุคใหม่ เดินออกมากจากแสงไฟระยับ นั่งพักหนุงหนิงกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง ตามที่นั่งพักริมทาง หลังจากที่สถานบันเทิงยามราตรีเริ่มทยอยปิดบริการ
โดยที่ทีมงานไม่ทราบเลยว่า ณ สถานที่นี้ในเวลากลางวัน เป็นถนนคนเดินที่ใหญ่ที่สุดในย่านถนนตงเหมิน มีคนเดินช็อปปิ้งไม่ต่ำกว่าแสนคนต่อวัน วันนี้เราสรุปสถิติการเดินทนของเราที่สุวรรณภูมิ 4 ชั่วโมง และที่เซินเจิ้น 0.00 – 03.00 อีก 3 ชั่วโมง รวมเป็น 7 ชั่วโมง ตัดเวลาที่นั่งทานข้าว หรือพักเหนื่อยที่สุวรรณภูมิไป 2 ชั่วโมง รวมวันนี้ทีมงานคุณภาพสร้างสรรค์การเดินทนได้เพียง 5 ชั่วโมง
พรุ่งนี้เช้าในเซินเจิ้นจะเป็นอย่างไร
... โปรดติดตามชมตอนต่อไป ...
(ตอนที่ 1) (ตอนที่ 3) (ตอนที่ 4) (ตอนที่ 5)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น