(ภาคแรก) (ภาคสอง) (ภาคสาม) (ภาคสี่) (ภาคห้า)
ล่าสุด น้องเหนือกำลังจะขึ้นชั้นอนุบาล 3 พี่น้ำกำลังจะขึ้นชั้น ป.4 มีเวลาไม่มากในช่วงปิดเทอมในปีนี้ ทีมงานครอบครัวเด็กดอย เริ่มประมวลผล ตรวจสอบความคุ้มค่าของการเล่นน้ำทะเล และสวนน้ำในสถานที่ต่างๆ จากประสบการณ์ซานโตรินี ที่พัก 1 คืน รวมค่าบัตรเข้าสวนน้ำ รวมครึ่งหมื่น แต่เด็กๆ ก็เล่นเครื่องเล่นได้เพียงเศษเสี้ยวของความยิ่งใหญ่ของซานโตรินี .. เราหาคำตอบจากโจทย์ครอบครัวที่มีลูกน้อยวัยไม่เกิน 10 ขวบ ทริปนี้ของเราบรรจบที่โรงแรมเมอร์เคียว พัทยากลาง ... สวนน้ำขนาดเล็กเหมาะสำหรับเด็กในราคาค่าที่พักคืนละ 2200 บาท จัดหนักแช่น้ำกันทั้งวัน
เริ่มออกเดินทางจากเชียงใหม่ ไปถึงอยุธยาเลี้ยวไปวงแหวนตะวันออก ขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี ดิ่งตรงไปพัทยา วันแรกครึ่งเช้าแวะเยี่ยมเยียน Underwater World ให้เด็กดอยได้เปิดหูเปิดตา มุดอุโมงค์ไปดูเค้าป้อนอาหารให้ปลาฉลาม เคลิบเคลิ้มกับแมงกะพรุนสีสวยๆ เดี๋ยวเอาไว้ว่างๆ จะมารีวิวให้ชม ภาคทฤษฎีเสร็จสิ้น ครึ่งบ่ายภาคปฏิบัติ จัดหนักตั้งแต่ยังไม่ทันได้ทานมื้อกลางวัน เสน่ห์ของทะเลช่างเย้ายวนใจ ห้ามไม่ได้นางเงือกน้อยทั้งหลายพากันไปแหวกว่ายชายทะเลหาดจอมเทียน ตั้งแต่แดดบ่ายจนอาทิตย์ลับลา เอาให้สาแก่ใจ
เช้าวันต่อมา โรงแรมเมอร์เคียว อยู่พัทยากลาง ระหว่างรอห้อง เด็กๆ เปลี่ยนชุดเรียบร้อยลงเล่นสวนน้ำเรียบร้อย สวนน้ำไม่ใหญ่มากขนาดพอดีตัว ไม่ว่าจะเป็นสไลเดอร์ขนาดปานกลาง น้ำพุหาดทรายเทียม ถ้ำน้ำตกให้เด็กๆ จินตนาการอย่างโลดแล่น หน้าผาโดดน้ำสูง 3 เมตร สำหรับเด็กว่ายน้ำเป็น มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด แถมยามเย็นมีวิทยากรมาสอนโยคะในน้ำให้เพลิดเพลินใจ มีหน้าผาจำลองให้ปีนเล่น ผู้ใหญ่อยากว่ายน้ำให้เป็นระบบระเบียบก็มีสระผู้ใหญ่อยู่บนดาดฟ้าชั้น 4 ขึ้นไปว่ายไปอาบแดดให้สะใจ .. หรือใครมีพรรคพวกขึ้นจากน้ำจะไปนั่งรอในห้องรับรองของเด็กๆ ก็มีคอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ตและของเล่น อยู่ไม่ไกลให้บริการฟรี
อารมณ์นี้จะต่างจากการไปเล่นน้ำตามสวนน้ำใหญ่ๆ เรื่องความเป็นส่วนตัว เด็กๆ จะเล่นน้ำกี่รอบ ขึ้นไปอาบน้ำกี่ครั้ง ออกไปทานข้าว หรือขึ้นไปนอนแช่แอร์ดูการ์ตูน แล้วกลับลงมาเล่นใหม่ก็ได้ เพราะเราจ่ายค่าที่พักไปแล้วคืนละ 2200 เรื่องข้าวของเครื่องใช้ทั้งหลายก็หมดห่วง ระบบคีย์การ์ดเช็คตั้งแต่ขึ้นลิฟท์ ไม่มีการ์ดกดเลือกชั้นที่จะไปไม่ได้ เข้าห้องก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกจนน่าทึ่ง จากโรงแรมที่เคยพักมา แอร์ เคเบิลทีวี มินิบาร์ ไดร์เป่าผม กาน้ำไฟฟ้า ตู้เซฟ อันนี้มาตรฐาน แต่ที่นี่มีเตารีดกับโต๊ะรีดผ้า แถมมีร่มให้ด้วย สงสัยแถบนี้แดดแรง เห็นอุปกรณ์ในห้อง นึกถึงโรงแรมที่หาดใหญ่ น่าจะพาเจ้าหน้าที่มาดูงานที่นี่บ้าง
ตกเย็นพาเด็กๆ ไปเดินเล่นหาดทราย หกสูง ตีลังกาให้สบายใจ เพราะที่พักไม่ไกลทะเล ซึ่งการเดินเล่นหาดทรายทำให้เราทราบว่า การพักโรงแรมหรู ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงในการทานอาหารจากเชฟในโรงแรมเสมอไป การนั่งกินอาหารบนเตียงผ้าใบริมหาด มาตรฐานพอใช้ได้ ราคาไม่แพงเท่าไร จะถูกกว่าทานในโรงแรม แต่อาหารมาตรฐานเดียวกันจะถูกกว่า หากขยันเดินเข้าซอยไปนิดหน่อย อาหารที่มาเสริพบนโต๊ะสนามเตียงผ้าใบริมทะเล มาจากร้านรถเข็นเล็กๆ ในซอย พี่ๆ เตียงผ้าใบชายหาดเค้าก็ซื้อจากที่นี่แล้วเอาไปเสิร์พให้ มีครบตั้งแต่อาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ ลองขยันเดินหาแล้วจะพบว่า อาหารไทยราคามาตรฐานอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก อารมณ์นี้นักท่องเที่ยวต่างชาติเค้าพาไปพิสูจน์มาแล้ว
พัทยา ฟังดูน่าเบื่อ เที่ยวตั้งแต่เด็กยันแก่ ใครก็เคยไป แถมเคยไปนับครั้งไม่ถ้วนอีกต่างหาก เราว่าพัทยาทราบดี และพัทยาก็ไม่เคยอยู่นิ่ง ปรับตัวเองตามสถานการณ์เสมอ เท่าที่เห็นไปรอบนี้แล้วแปลกตา อาจเป็นหมู่บ้านชาวเขาในพัทยา ที่เราไม่คิดจะไปเพราะเรามาจากยอดดอยอยู่แล้ว แต่เป้าหมายที่เด็กๆ ทำการบ้านมา ก็เห็นจะเป็นสุดยอดความสุขของเด็กๆ ในยุคนี้ ก่อนกลับทางบายพาส พัทยา-ชลบุรี อย่าลืมแวะเที่ยว Pipo Pony Club ฟาร์มม้าแคระและโรงเรียนสอนขี่ม้า เด็กๆ ชื่นชอบมากแทบไม่อยากกลับเชียงใหม่ เอาไว้ว่างๆ จะมารีวิวรายละเอียดให้ฟัง
ยังครับ ยังไม่จบ จากพัทยา คุณพ่อตัดตรงผ่านรังสิตเข้าบางบัวทองไปทำธุระเล็กน้อย ก่อนมุดไปตั้งหลักที่นครปฐม เยี่ยมเยียนเพื่อนรักในวงการ เช้าอีกวันเรากลับทางสุพรรณบุรีผ่านชัยนาท .. เด็กๆ ยังขอย้อนรำลึกความหลังสวนน้ำในสวนนกชัยนาทอีกรอบ เป็นการพักรถและพักโชเฟอร์อย่างคุ้มค่า ยอมรับว่าเป็นสวนน้ำรัฐบาลที่รักษามาตรฐานได้ดีในราคาประหยัด เด็กๆ ไม่ผิดหวัง โชเฟอร์ก็นอนหลับพักผ่อนแบบเย็นใจ ก่อนนั่งหลังพวงมาลัย ขับกลับเชียงใหม่อย่างปลอดภัย .. โปรดติดตามตอนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น