2559-10-31

The Symphony of Lights แค่ควันหลง เราก็ตกหลุมรักฮ่องกงเสียแล้ว (ฮ่องกง ตอน10)

(ฮ่องกง ตอน7) (ฮ่องกง ตอน8) (ฮ่องกง ตอน9)  (ฮ่องกง ตอน11) (ฮ่องกง ตอน12) (ฮ่องกง ตอน13)
คล้อยเย็นย่ำสนทยา สายฝนโปรยปรายมาเป็นระยะ แต่ผู้คนบริเวณ Hong Kong Museum of Arts ยังคงหนาตา เราเริ่มมองหาที่นั่งพักผ่อน รวมทั้งร้านอาหาร เพราะเที่ยวมาทั้งวัน มื้อกลางวันที่ Repulse bay ก็กินเป็น Fast Food กินไปเดินเที่ยวเล่นไป ไม่ได้นั่งกินเป็นเรื่องเป็นราว ลองเปิด GPS ดู จากจุดนี้สามารถเดินไปยังที่พัก The Imperial Hotel ได้เพียง 5 นาที ขณะนี้เพิ่ง 5 โมงเย็น มีเวลาอีกราว 3 ชั่วโมง เหมาะแก่การกลับไปพักผ่อนหย่อนแข้งหย่อนขายังห้องพัก รวมทั้งหาข้าวปลาอาหารให้เด็กๆ ด้วย

แถว Museum of Arts มีเหลี่ยมฉากหน้าหลัง ตลอดจนอุปกรณ์ประกอบฉากแบบแปลกๆ แนวศิลป์ๆ ให้ถ่ายภาพได้สนุกสนานไม่น้อย เดินไปถ่ายไปเพียงชั่วครู่ข้ามถนนหน้า Hong Kong Space Museum ก็มาถึงที่พัก พอเอนหลังเหยียดขาคลายความเมื่อยล้าไปได้บ้าง มองไปนอกหน้าต่าง สายฝนเริ่มโปรยปรายอีกรอบ ความมืดเริ่มแผ่คลุมย่าน Tsim Sha Tsui มองไปทาง Victoria Harbour เริ่มมีการยิงแสงไฟ laser กระทบขอบฟ้าเห็นเป็นเส้นเป็นสายวิ่งไปมา เราคงรอจนฝนซาไม่ได้แล้ว คว้าร่มพาลูกออกห้องพักเดินหามื้อเย็นทาน กะเอาว่าจะเอาร้านใกล้ๆ ที่พักที่เราทานเมื่อเช้า




กางร่มเดินไปมาในซอยแถวถนน Nathan มองไปมองมาหาร้านที่ทานเมื่อเช้าไม่เจอ อาจเพราะผู้คนเพิ่มจำนวนมากขึ้น ร้านรวงที่เป็นร้านอาหารเครื่องดื่มสำหรับคนกลางคืน เมื่อเช้าปิดอยู่ตอนนี้ก็เปิดให้บริการกันหมดแล้ว เหลือบมองดูนาฬิกา เหลือเวลาอีกไม่มาก การแสดงจะเริ่มขึ้น เรารีบตัดสินใจเลือกร้านบะหมี่ ที่มีอยู่บริเวณนั้น หากแต่ผู้คนก็ช่างมากมายเสียเหลือเกิน รอคิวอยู่นานมองนาฬิกาใกล้จะสองทุ่มเต็มที่ ในที่สุดก็ได้ทานบะหมี่เกี๊ยวกุ้งชามโต สั่ง 3 ชามกิน 4 คน แทบไม่หมด กินเสร็จรีบเช็คบิล เดินกางร่มฝ่าสายฝนเบียดเสียดผู้คน มุ่งตรงไปยังแสงไฟที่ Victoria Harbour


ฝนตกเฉอะแฉะ ผู้คนแย่งกันเดิน แย่งกันข้ามถนน ระหว่างรอไฟข้ามถนนหน้า Hong Kong Space Museum มองไปยังฝั่งฮ่องกงจากอีกฝั่งถนน การแสดงแสงสีเสียงกำลังดำเนินอยู่ มามัวกางร่มให้กันก็จะถึงช้าไป เราพยายามเลี่ยงเดินลัดบริเวณที่มีใต้ตึก เพื่อไปให้ถึงยัง Victoria Harbour อย่างเร็วที่สุด ตราบจนใกล้ถึง Museum of Arts เราได้ยินเสียงผู้คนอื้ออึง คละเคล้าระคนเสียงสายฝนหล่นพรำ คลื่นมหาชนทยอยหลั่งไหล เดินสวนทางกับเรามาเรื่อยๆ ทำให้เราเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้ช้าลงเรื่อยๆ เพราะเดินสวนทางกับเค้า เหลือบมองนาฬิกา สองทุ่ม 15 นาทีพอดี

Guinness World Records ได้บันทึกไว้ว่า The Symphony of Lights เป็นการแสดงแสงสีเสียงกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก การแสดงมีความยาว 15 นาที อาคารชั้นนำ 44 หลังทั้งในฝั่งฮ่องกง และฝั่งเกาลูน จะยิงแสง Laser สลับแสงไฟของตึกต่างๆ แสดงประกอบบทเพลง จุดรับชมรับฟังคือบริเวณ Avenue of Stars หน้า Clock Tower รวมทั้งลาน Hong Kong Museum of Arts และถ้าจะเด็ดสุดก็เห็นจะเป็นนั่งเรือล่องในอ่าวเพื่อชมความงามของการแสดงแสงสีเสียง สะท้อนริ้วคลื่นแรงลมกลางอ่าววิคตอเรีย ... ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมด เรามาสายไปไม่กี่นาที ..

แม้จะสายไปไม่ทันชมการแสดงก็ใช่จะไร้เสน่ห์เสียทีเดียว เพราะตึกรามบ้านช่องอันประดับประดาดวงไฟสะพรั่ง เค้าก็ยังปราณีคนมาสายเช่นเรา ไม่ได้ปิดไฟหนีไปเสียเมื่อไร บางตึกยังแข่งกันเล่นไฟเป็นจังหวะต่างๆ พอเห็นเป็นรูปเป็นร่าง น้ำตกบ้าง สเตปไฟวิ่งพุ่งขึ้นลงบ้าง คนวิ่งข้ามตึกบ้าง ก้านเลเซอร์พุ่งพาดไปมา จะขาดก็แต่ไม่มีเสียงเพลง เราก็ได้แต่ปลอบใจตัวเอง จินตนาการเอาเองว่าไฟวับวามที่ละลานตานั้น สื่อเป็นรูปภาพอะไร และน่าจะเป็นดนตรีจังหวะอะไรบรรเลงอยู่ในใจ

หลังจากการแสดงแสงสีเสียงจบลง กิจกรรมอื่นก็ดำเนินขึ้นต่อไป ย่านนี้คึกคักด้วยกิจกรรมศิลปินแสดงสดต่างๆ มีน้องๆ น่าจะวัยนักศึกษามาร้องเล่นเต้นระบำเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ศิลปินอาชีพร้องรำทำเพลง ขายของที่ระลึกหารายได้ ทำให้เวลาค่ำคืนริมอ่าววิคตอเรียนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงเวลาต้องพาเด็กน้อยไปพักผ่อนแล้ว เพราะขณะนี้เพื่อน The Gang และครอบครัวอีก 13 คน กำลังบินตามมาจากเชียงใหม่ เตรียมพร้อมไปตะลุย Hong Kong Disneyland Resort เช้าตรู่วันพรุ่งนี้นั่นเอง

(ฮ่องกง ตอน7) (ฮ่องกง ตอน8) (ฮ่องกง ตอน9)  (ฮ่องกง ตอน11) (ฮ่องกง ตอน12) (ฮ่องกง ตอน13)

ไม่มีความคิดเห็น: